"ทนายเดชา" ยัน สาวคู่กรณี "แสตมป์" พอใจโพสต์ขอโทษ ไม่ติดใจแจ้งความ แต่หลังจากนี้หากให้สัมภาษณ์ทำให้เสียหายอีก ก็ต้องดำเนินคดี ส่วนคดี ม.112 ยืนยันไม่ใช่การข่มขู่ เพียงเตือนว่า "แสตมป์" มีพฤติกรรมหมิ่นเหม่
วันที่ 20 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ก่อนหน้านี้ฝั่งคู่กรณีของ "แสตมป์" มาปรึกษาเรื่องคดีความ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับคู่กรณีและครอบครัวแล้ว หลังได้เห็นข้อความยอมรับผิดและขอโทษที่ "แสตมป์" โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งคู่กรณีและครอบครัวก็รู้สึกพอใจ และไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว ขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบันมาตรา 112 ที่นอกเหนือการจัดการของคู่กรณี เพราะเรื่องนี้คู่กรณีและครอบครัวได้ไปให้ข้อมูลกับการกองทัพบกแล้ว และเป็นหน้าที่ของกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ในการพิจารณาดำเนินการกับ "แสตมป์" หรือไม่ โดยครอบครัวคู่กรณียืนยันว่าไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการที่พ่อคู่กรณีแจ้งว่าการกระทำของ "แสตมป์" ที่แช็ตพูดคุยกับสาวคู่กรณีก่อนหน้านี้นั้น มีพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ มาตรา 112 พ่อคู่กรณีจึงมีการพูดเพื่อปกป้องสถาบัน แต่ไม่ใช่การข่มขู่ และมีหลักฐานเป็นแช็ตสนทนาทั้งหมด
ส่วนคดีที่คู่กรณีถูกฟ้องร้องมีทั้งหมด 4 คดี ได้แก่ คดีหมิ่นประมาทที่ศาลจังหวัดนนทบุรี , คดีหมิ่นประมาทที่ศาลแขวงดุสิต , คดีหมิ่นประมาทที่ศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท โดยทั้ง 3 คดีหมิ่นประมาท "แสตมป์" ได้ถอนฟ้องไปแล้ว
ส่วนคดีละเมิดที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เรียกค่าทดแทน 10 ล้านบาท ก็ไกล่เกลี่ยจบแล้ว ศาลสั่งจ่ายเงินทดแทน 1 ล้านบาท โดยที่คู่กรณียอมจ่าย เพราะศาลไกล่เกลี่ยและถูกกดดันจากคู่กรณี จึงยอมจ่ายให้เรื่องจบไป แต่ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นชู้กับ "แสตมป์" และหลังจากคดีจบ พ่อของคู่กรณี ก็ยืนยันว่าไม่เคยตามไปข่มขู่คุกคามที่บ้านใดๆ ไม่เคยเจอ "แสตมป์" ด้วย และสงสัยว่าคดีจบไปนานแล้ว เหตุใดจึงไปขึ้นคอนเสิร์ตเช่นนั้น
ดังนั้นแม้จะพอใจกับคำขอโทษที่ "แสตมป์" โพสต์เมื่อเช้า แต่หากหลังจากนี้มีการไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กระทบคู่กรณีและครอบครัวให้ได้รับความเสียหาย ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่หากหยุด คู่กรณีก็จะหยุดเช่นกัน ส่วนโพสต์ดังกล่าวของ "แสตมป์" ที่ยอมรับว่านอกใจภรรยา มาคบกับคู่กรณีนั้น ทนายเดชาก็ยอมรับว่ากระทบกับคู่กรณี แต่ก็ขึ้นอยู่กับครอบครัวคู่กรณีจะดำเนินการหรือไม่ ดังนั้นหลังจากนี้ "แสตมป์" ควรอยู่เฉยๆ ดีกว่า ส่วนเรื่องคบกันจริงหรือไม่นั้น ให้เป็นเรื่องส่วนตัวของคู่กรณีออกมาพูดเอง ไม่สามารถตอบแทนได้
ส่วนที่มีหลายคนตั้งคำถามว่าการนำคำพิพากษามาโพสต์ลงโซเชียลฯ ลักษณะนี้ จะไม่มีความผิด ทนายเดชายืนยันว่าไม่มีความผิด เพราะคนที่โพสต์เป็นแฟนคู่ความ เสมือนเป็นผู้รับมอบอำนาจ เมื่อโดนกล่าวหาให้เสียหาย ก็ต้องชี้แจง