ตำรวจทางหลวงแพร่ รวบสาวสองขโมยเงิน-ทองคำ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท หวังหนีกบดานบ้านญาติที่จังหวัดเชียงรายสุดท้ายไปไม่รอด

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 เวลา 19.30 น. พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งให้สกัด เหตุคนร้ายหลบหนี คดีลักทรัพย์ จากบ้านโนนแสงแก้ว อ.ภูเรือ จ.เลย เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.23 น. ได้มีเหตุลักทรัพย์ตู้เชฟน้ำหนัก 50 กิโลกรัม สีเงิน โดยมีของอยู่ในตูเซฟเป็นทองคำมูลค่า 9.25 บาท ปืน cz สีดำ 1 กระบอก เงินสด 2,000,000 บาท หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยผู้ก่อเหตุคือ นายศรุตา และนายวิษณุ ใช้รถกระบะหลบหนี โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่จังหวัดแพร่ หลังได้รับแจ้งจึงได้ตั้งจุดสกัด และสามารถรวบตัวได้ผู้ต้องหาที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 101 หน้า รพ.ร้องกวาง จ.แพร่ จากนั้นได้ดำเนินการนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำการสอบสวน และบันทึกการจับกุม ที่ สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง

เบื้องต้น ตรวจสอบในกระเป๋าของนายศรุตา (ผู้ก่อนเหตุ) พบเงินสด จำนวน 75,940 บาท ทองคำประกอบด้วย สร้อยคอทองคำขนาด 46 กรัม 1 เส้น สร้อยแขน 46 กรัม 1 เส้น สร้อยคอพร้อมจี้ ขนาด 16 กรัม แหวนทอง 1 วง พระเลี่ยมทอง 3 องค์ จึงบันทึกไว้และเก็บไว้เป็นของกลาง

 

 

สอบถามนายศรุตา (ผู้ก่อนเหตุ) เล่าว่า ตนเองรู้จักกับเจ้าของบ้าน และเข้าออกบ้านเป็นประจำทำให้ทราบว่า บ้านหลังนี้มีเงินเพราะปล่อยเงินกู้ ตนเองก็เป็นหนี้อยู่ ตนเป็นคนขโมยตู้เซฟออกมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมาเนื่องจากอยากได้เงินขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านอยู่หลังบ้าน ตนเองเข้าไปขโมยคนเดียวแล้วเรียกให้แฟนไปรับ จากนั้นก็หลบหนีออกมาพร้อมกับตู้เซฟ โดยได้ทำการใช้ไม้ทุบงัดตู้และนำตู้เซฟไปทิ้งที่บริเวณแม่น้ำแถวสนามบินภูเรือ จ.เลย และนำทองคำและเงินสดหนีมา จะไปอาศัยบ้านญาติที่จังหวัดเชียงราย โดยทางด้านตัวผู้ต้องหายืนยันเป็นผู้กระทำจริงเพราะอยากได้เงิน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งมอบให้กับ สภ.ภูเรือ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป