เมียจ่าทหารสุดช้ำ! คบหากับสามีมากว่า 12 ปี มีสาวอื่น 5 คน ส่วนเมียหลวงใช้ชีวิตสุดรันทด รับจ้างล้างจานหาเงินประทังชีวิต เพื่อรักษามะเร็ง ล่าสุดถูกสามีฟ้องหย่า คาดต้องการไปจดทะเบียนสมรสกับสาวคนที่ 5
วันที่ 21 ม.ค.68 นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังถูกสามีที่คบหามานานกว่า 12 ปี แอบไปมีสาวอื่นประมาณ 5 คน เลี้ยงดูอย่างดี ส่วนภรรยาหลวงต้องทำงาน หาเงินเลี้ยงดูตัวเอง เพื่อรักษาโรคมะเร็ง
นางสาวเอ ผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มคบหาดูใจกับสามี ยศจ่าทหาร สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ตั้งแต่ปี 2557 และได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อ 11 มกราคม ปี 2561 แต่ต้องแยกกันอยู่ เพราะตนต้องอยู่ดูแลแม่ ที่จ.สิงห์บุรี ส่วนสามีต้องประจำการในค่ายทหารที่ จ.สระบุรี แต่หลังจดทะเบียนสมรส สามีก็เริ่มเปลี่ยน เช่น ไม่ค่อยกลับบ้าน อ้างว่าติดเวร ส่วนพฤติกรรมนอกใจ เพิ่งมารู้หลังจดทะเบียนสมรส ว่าสามีแอบคบซ้อน
โดยสาวคนที่ 1 เป็นชาวจังหวัดสระบุรี เริ่มคบซ้อนกันตั้งแต่ปี 2558 (ก่อนทะเบียนสมรส) ได้โทรศัพท์มาบอกว่า “รู้ไหมว่าสามีของตนมีเมียอยู่แล้ว” ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจ แต่ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ทราบค่ะ เพราะอยู่คนละที่” ก่อนที่ผู้หญิงในสายจะตอบกลับมาว่า “ ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็เลิก” ก่อนวางสายไป ต่อมาสามีก็ยอมรับว่า เป็นผู้หญิงที่แอบคบกัน และได้พาเข้ามาอยู่ในบ้านพักข้าราชการในค่ายทหารด้วย
ส่วนสาวคนที่ 2 เป็นชาว จ.ปราจีนบุรี เริ่มคบหากันในปี 2562 สามีได้พาไปอยู่ในแฟลตที่ซื้อใหม่ ในจ.ปทุมธานี แต่อยู่กันได้ไม่นานเมียน้อยคนนี้ก็เสียชีวิตคาแฟลตที่อยู่ด้วยกัน ด้วยโรคประจำตัว
ส่วนสาวคนที่ 3 ชื่อเปิ้ล เป็นชาว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มคบหากันปลายปี 2562 หลังจากเมียน้อยคนที่ 2 เสียชีวิตไปแล้ว ระหว่างคบหากับคนที่ 3 สามีก็ได้ปลอมแปลงเอกสารของตน ไปกู้เงินสหกรณ์ในกรมทหาร เพื่อเอาเงินมาทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกับเมียน้อยคนที่ 3 ด้วย
ส่วนสาวคนที่ 4 เป็นชาว จ.สระบุรี เมียน้อยคนนี้ เปิดเผยตัวตนบนโลกโซเชียล นำภาพคู่ที่ถ่ายกับสามีโพสต์บนเฟซบุ๊กเปิดหน้าเปิดตา และยังเป็นคนที่ยุให้สามีมาฟ้องหย่าด้วย โดยสามียังนำเงินไปซื้อที่ดินให้ ในขณะที่เธอต้องรับจ้างล้างจานหาเงินมาประทังชีวิตและรักษาโรคมะเร็ง สามียังโทรมาข่มขู่ว่าเมียน้อยคนนี้มีปืน 2 กระบอก เพื่อหวังให้เธอยอมเซ็นใบหย่า
ซึ่งในระหว่างที่สามีแอบคบหากับสาวคนที่ 3 และ 4 สามีก็ยังมีสาวอื่นอีก 1 คน เป็นชาว พระนครศรีอยุธยา แต่ตนยังหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ มีเพียงรูปถ่าย ที่สามีของตนนำเค้กไปเซอร์ไพรวันเกิด ผู้หญิงคนดังกล่าว
ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม แม่ของตนได้เสียชีวิตและฌาปนกิจเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 แต่หลังจากเผาศพแม่ไปได้เพียงห้าวันจากนั้นก็มีหมายศาลฟ้องหย่ามาหาเธอที่บ้าน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ตนจึงพยายามติดต่อหาสามีแต่ก็ไม่มีการรับสาย ซึ่งก่อนหน้านี้สามีได้เคยมาพูดกับตนว่าแม่ของสามีจะมีการจ้างให้ตนหย่า โดยจะให้เงิน 3,000,000 บาท แต่ตนก็คิดว่าเป็นการพูดเล่น จึงไม่ได้เอะใจจนกระทั่งมีหมายศาลมา
ส่วนหนึ่งในเหตุผลที่ฟ้องหย่า สามีอ้างว่าตน ไม่ได้อยู่กินกันมามากกว่าสามปี ทั้งที่ตน กับสามีจดทะเบียนสมรสมาด้วยกัน 8 ปีแล้ว และสามีก็อ้างว่า ตนไม่เคยช่วยเหลือ ดูแลยามเจ็บป่วย ทั้งที่ตนก็เคยโอนเงินไปให้หลายครั้ง ในเวลาที่สามีขอ อีกทั้งบัญชีที่เป็นผู้รับเงิน ยังเป็นบัญชีของเหล่าบรรดาสาวอื่นอีกด้วย ตนเคยทำเอกสารร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชา ของสามี แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงเดินทางมาร้องเรียนกับสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็น ซึ่งตนก็ยอมรับว่ายังรักสามีคนนี้มาก และยืนยันจะไม่ยอมหย่า และมีความกังวลว่าหลังจากเรื่องราวถูกตีแผ่ออกไปสามีอาจจะได้รับโทษทางวินัย แต่ในเมื่อมันสุดทางแล้ว ตนก็ยอมรับผลที่จะออกมาทั้งหมด
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จะประสานและทำเรื่องร้องเรียนไปยังค่ายทหารต้นสังกัดของจากทหารคนนี้