นักธุรกิจสาวชีวิตพัง ถูกอายัดเงิน 8 บัญชี รวมเกือบ 100,000 บาท เหตุตำรวจกดเลขบัญชีม้าผิดไป 1 ตัว พ้อผ่านมา 1 เดือนแล้วยังไม่ปลดอายัด เงินกินข้าวก็ไม่มี จนต้องกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายประทังชีวิตไปก่อน
วันที่ 24 ม.ค. 2568 มีรายงานว่า นางสาวณัชชาภรณ์ ผู้เสียหาย อายุ 32 ปี ร้องเรียนหลังจากเหตุตำรวจอายัดผิดคน เหตุเพราะมีผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับบัญชีม้า แต่ตำรวจดันกดเลขพลาดไป 1 ตัว ส่งผลกระทบให้บัญชีของตนโดนอายัดทั้งหมด 8 บัญชี เงินในบัญชีเกือบ 100,000 บาท โดนอายัดหมด ไม่เหลือเงินแม้แต่จะกินข้าว ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 เดือนแล้ว บัญชีของตนยังคงถูกอายัด เจนต้องกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายประทังชีวิตไปก่อน
นางสาวณัชชาภรณ์ เล่าว่า คืนวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ตนเองได้รับ SMS จากธนาคารแห่งหนึ่งแจ้งว่า บัญชีถูกระงับการใช้งานตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี HR3 ตอนแรกคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอวันรุ่งขึ้นกลับได้รับ SMS แจ้งเตือนจากทุกธนาคาร ทำให้ต้องรีบไปตรวจสอบที่สาขาใกล้บ้าน พอไปถึงธนาคารพบว่าถูกอายัดจริง เหตุเพราะมีผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง ว่าบัญชีของตนได้ฉ้อโกงสินค้าผู้เสียหายไปตำรวจจึงแจ้งอายัดบัญชี
ตนได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทราบว่าเกิดจากความผิดพลาด เนื่องจากผู้เสียหายได้มาแจ้งให้อายัดบัญชีของนางสาวณัชชาภรณ์ เลขที่ XXX-9-70603-2 ตนจึงติดต่อไปยังผู้เสียหายที่ไปแจ้งความอายัดบัญชี ได้ความว่า เขาได้ไปแจ้งอายัดบัญชี ของนางสุณิศา เลขที่ XXX-9-40603-2 แต่กลับอายัดบัญชี ไม่ได้แจ้งอายัดบัญชีตน แต่ตำรวจน่าจะคีย์ตัวเลขผิด ระหว่างเลข (7) กับเลข (4) ซึ่งต่างกันเพียงตัวเลขเดียว ทำให้บัญชีตนถูกอายัดและที่บัญชีตนถูกอายัดทั้ง 8 บัญชี เพราะตำรวจไปสั่งอายัดบัญชี ที่เป็นชื่อตนเองทั้งหมด (หรือเรียกว่า HR3)
ตนพยายามติดต่อประสานงานกับตำรวจที่ สภ.ปากช่อง อยู่ทุกวันแต่ตำรวจอ้างว่า “ติด 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่” ต้องรอหลังปีใหม่จะปลดอายัด และเพิ่งมาปลดล็อกให้บัญชีเดียวเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 นี่เอง ตอนนี้ก็เหลืออีก 7 บัญชีที่ยังถูกอายัดอยู่และที่น่าช้ำใจอีกคือ ตนทำเรื่องกู้สินเชื่อไว้กับธนาคารต้องถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด เพราะบัญชีตนกลายเป็นบัญชีสีเทาเข้ม (หรือบัญชีม้า) ส่งผลให้ชีวิตพลิกผันในชั่วข้ามคืน ไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้เลย ต้องขอยืมพ่อแม่กิน ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ประทังชีวิตไปก่อน
และสิ่งที่ตนสงสัยคือ ทำไมตำรวจกับธนาคารไม่ตรวจสอบตัวเลขกับชื่อให้ดีก่อนถึงอายัดบัญชี ถึงตัวเลขจะเหมือนกันแต่ชื่อก็ไม่เหมือนกัน