DSI มีมติเรียก อัจฉริยะ-พวก ให้ข้อมูลคดีแตงโม นิดา ยันไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี แต่เป็นคดีใหม่

วันนี้ (24 ม.ค. 68) เวลา 15:30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวคณะสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกับคณะพนักงานสืบสวนนัดแรก เพื่อกำหนดทิศทาง และวางกรอบการสืบสวน สำหรับการแสวงหาพยานหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ออกคำสั่งเลขสืบสวนที่ 20/2568 ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกรณีที่ภาคประชาชนมาร้องให้ดีเอสไอตรวจสอบว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมในคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้ประชุม เปิดคดีเป็นครั้งแรก และมีมติที่จะเชิญผู้ร้อง คือ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสืบสวนสอบสวน

อีกทั้ง พนักงานสืบสวนสอบสวนจะลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยใช้เครื่องมือเลเซอร์สแกนบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมด ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น และขอข้อมูลทั้งหมด GPS ที่เป็นเส้นทางการเดินเรือ เพื่อจำลองเหตุการณ์ที้เกิดขึ้น และมาร่วมตรวจสอบกับข้อมูลที่ผู้ร้องนำมาให้พนักงานสอบสวนต่อไป รวมทั้งคดีนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ข้อมูลหลักฐานอาจจะหายไป จึงฝากถึงพลเมืองดีที่อยู่บริเวณดังกล่าว ช่วยแจ้งข้อมูลให้กับดีเอสไอ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ในห้วงสัปดาห์หน้า คณะพนักงานสืบสวนจะมีการเชิญในส่วนของผู้ร้องเพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม และทราบว่าทางผู้ร้องอยู่ระหว่างการประสานพยานบุคคลอื่นๆ เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับเรา รวมไปถึงพยานสำคัญ โดยเราจะมีมาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อให้บุคคลกล้าเข้ามาให้ปากคำด้วย พร้อมยืนยันว่า เราจะดำเนินการสืบสวนโดยไม่ให้กระทบกับสำนวนคดีหลักที่อยู่ในระหว่างกระบวนการชั้นศาลแน่นอน เรียกว่าจะเป็นการสืบสวนนอกสำนวนคดีอาญาที่ดำเนินการอยู่แล้วทั้งหมด และย้ำว่า ไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า การสืบสวนจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนกระบวนการชั้นศาลในส่วนของคดีหลัก ซึ่งการสืบสวนของดีเอสไอ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีหลัก เพราะเรื่องนี้เป็นการสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเดิมทั้งสิ้น เพราะจะเป็นเรื่องใหม่ ตามที่ผู้ร้องได้ร้องว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและขอให้เราตรวจสอบกลุ่มบุคคล และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ก็เป็นไปตามกรอบกฎหมาย ถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องจะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ดำเนินการต่อไป

*ปานเทพ ยันจำลองตกเรือไม่ใช่ละครเกรดบี แต่เป็นการเริ่มต้น*

นอกจากนี้ ยังมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พร้อมด้วยผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อรับฟังความคืบหน้าหลังรับ คดีการเสียชีวิตแตงโม โดยนายปานเทพ ระบุว่า มาเพื่อแสดงความขอบคุณ และติดตามความคืบหน้าคดี และทางเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือ เพราะจะมีการเรียกพยานไปให้ข้อมูล

อีกทั้ง ประเด็นสำคัญของคดีนี้คือพยานหลักฐานที่มีความยาก เนื่องจากคดีเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี ดังนั้นหากประชาชนมีข้อมูลหรือมีการเก็บพยานหลักฐานในในช่วงที่เกิดเหตุขอให้นำมามอบให้ทางดีเอสไอ เพื่อช่วยในการหาความจริงของการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา

นายปานเทพ ย้ำว่า การสืบสวนขณะนี้จะเน้นเป็นในเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือการปฏิบัติที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงเท่านั้น ซึ่งไม่กระทบต่อคดีหลัก ตนขอให้ทุกคนเข้าใจว่าทางเรารู้ขอบเขตของกฎหมายดี

อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ทางภาคประชาชนจะมีการทดสอบเรื่องแสง และเงา พร้อมย้ำว่า ผลการทดสอบการตกเรือที่ผ่านมา ไม่ใช่ละครเกรดบี แต่ทำให้เห็นแล้วว่ากลับมีการเริ่มต้นการหาข้อเท็จจริงเรื่องของการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา