เกิดอุบัติเหตุกระบะแหกโค้งชนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ขับสวนมา ก่อนไถลตกลงไปในคลองหงายท้องล้อชี้ฟ้า คนขับเสียชีวิตคาซากรถ

วันที่ 27 มกราคม 2568 มีรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมจิตต์ ศิริแสวง พนักงานสอบสวน สภ.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนน 3043 หรือ ถนนสาย อุทัย - สามบัณฑิต ส่งผลให้รถยนต์กระบะกระเด็นตกลงไปในคลอง คนขับรถกระบะเสียชีวิตติดค้างอยู่ภายในรถ 1 ราย จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ พร้อมนำอุปกรณ์ตัดถ่างออกตรวจสอบและให้การช่วยเหลือสนับสนุน






ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบ 4 ประตู สีขาว สภาพพลิกคว่ำหงายท้อง จมอยู่ภายในคลองชลประทาน พบตัวรถด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ลงไปในน้ำตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ชื่อนายปิยทัศย์ อายุ 31 ปี ตัวรถกดทับต้องนำรถยกนำรถขึ้นมาก่อนใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดนำร่างออกมาจากตัวรถใช้เวลาประมาณ 10 นาที ถึงนำร่างออกมาได้อย่างทุลักทุเล




พบผู้เสียชีวิตมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะถึงกะโหลก สภาพใบหน้าจมอยู่ในน้ำมีโคลนติดเต็มใบหน้า ใกล้กันยังพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สภาพด้านหน้าฝั่งขวามีรอยชนได้รับความเสียหายรูดยาวตั้งแต่ด้านหน้าไปถึงตัวรถด้านข้างฝั่งขวา ยางหน้าและแม็กหลังแตก 2 เส้น มีนายอำพัน เป็นคนขับยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในจุดเกิดเหตุ




นายอำพัน คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ตนเองขับรถขนขวดเปล่าจะนำไปส่งบางเลน วิ่งออกมาจากทางตำบลสามบัณฑิต เป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะคันดังกล่าวขับสวนทางเข้ามาจากตำบลอุทัย พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงโค้ง รถกระบะคันดังกล่าวหลุดโค้งเข้ามาชนตนเอง ตนเองพยาพยามหักหลบแล้วแต่ด้วยถนน 2 เลนวิ่งส่วนกันไม่พ้น ทำให้ชนตนเองอย่างจังและรูดข้างรถก่อนตกลงไปในคลองดังกล่าว




นายศิวกุล ภู่อินทร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ เปิดเผยว่า ตนเองรับแจ้งมีรถกระบะตกลงไปในคลองหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ดังจุดเกิดเหตุ จึงรีบลงไปตรวจสอบพบมีคนอยู่ภายในรถแต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากรถหงายท้องจมลงไปในน้ำพร้อมกับทับร่างผู้เสียชีวิตอยู่ ใกล้กันก็พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อจอดอยู่ คาดว่าชนกันอย่างแรงเพราะตัวรถกระบะด้านหน้าฝั่งขวาพังยุบเสียหายทั้งหมด ภายในรถยังพบขวดเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิด 3 ขวด และมีแตกกระตายอยู่ภายในรถอีกด้วย


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรอุทัย เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี พร้อมประสานญาติให้ทราบและมารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป