รวบผู้ต้องหาหนีคดีฆ่า เจ้าตัวยันเสียงแข็ง นับวันเวลาตลอด สุดท้ายคดียังไม่ขาดอายุความ
วันที่ 28 มกราคม 2568 พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล จ.ขอนแก่น พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.พล นำหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุม นายประมวล อายุ 42 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น แต่เจ้าตัวแย้งว่า คดีขาดอายุความ
โดยพ.ต.อ.พีระฉัตร เผยว่า การจับกุมผู้ต้องหา เป็นการจับกุมตามหายจับคดีค้างเก่า ซึ่ง สภ.พล ได้รับการประสานงานจาก สน.โชคชัย ว่ามีผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าคนตาย หลบหนีหมายจับ ซึ่งคนร่วมก่อเหตุมีภูมิลำเนา อยู่ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น จึงมอบหมายให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบชื่อที่อยู่ของผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งมีชื่อของผู้ต้องหารายนี้รวมอยู่ด้วย จึงได้ทำการตรวจสอบตามที่อยู่ดังกล่าว ทราบว่าผู้ต้องหาไปมาระหว่างบ้าน และเดินทางออกไปทำงานที่อื่น จึงได้ดักรอที่บ้าน กระทั่งพบผู้ต้องหากลับมาที่บ้าน จึงแสดงหมายเข้าจับกุมตัว
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุ อายุประมาณ 22 ปี ทำงานในกรุงเทพ ฯ พักที่แฟลตแห่งหนึ่ง ลมได้พัดผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้ที่ระเบียง เกี่ยวขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ตกลงไปกระแทกรถยนต์ที่ลานจอดชั้นล่าง เจ้าของรถไม่พอใจ ขึ้นมาเตะเสยปลายคาง ต่อว่าต่าง ๆ นานา เพื่อน ๆ ไม่พอใจ จึงรุมทำร้ายเจ้าของรถ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุทุกคนต่างแยกย้ายหลบหนี กระทั่งถูกศาลออกหมายจับ เพื่อนบางคนถูกจับติดคุกไปแล้ว บางคนก็ยังหลบหนี ส่วนนายประมวล หลบหนีมาทำงานที่จังหวัดขอนแก่น คิดว่าโทษที่ถูกออกหมายจับหมดอายุความแล้ว เพราะนับมาตลอด จึงกลับมาอยู่กับแม่ที่บ้าน
ผกก.สภ.พล เผยอีกว่า ผู้ต้องหาคนนี้ ในความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นนั้นมีอายุความ 20 ปี ศาลอาญา ออกหมายจับ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2548 จึงยังไม่หมดอายุความ เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกับ 10 วัน เพราะจะหมดอายุความในวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่จะถึงนี้ โดยก่อนจะถูกจับกุมนั้น จริง ๆ แล้วผู้ต้องหาต้องเดินทางไปเร่ขายว่าวที่ต่างจังหวัดกับนายจ้าง แต่นายจ้างเกิดปวดหัวและจะเดินทางในวันถัดไป จึงไม่ได้ออกเดินทาง เมื่อตำรวจนำหมายจับไปถึงที่บ้านแม่า ก็พบผู้ต้องหาจึงเข้าจับกุมตัว ส่ง สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งหากนายจ้างไม่ปวดหัวก่อน ก็จะพาผู้ต้องหาออกเร่ไปทำงาน และจะสามารถหลบหนีจนหมดอายุความได้