จับรอบ2! ชายสายเปย์ จ้างอัดคลิปขืนใจเด็ก ทั้งที่อยู่ระหว่างประกันตัว แต่ก่อเหตุซ้ำซาก

เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์สตรี Alliance Anti Trafic หรือ AAT ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์ หลังเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการประกันตัว แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอย่างไม่เกรงกลัว

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์โดย กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือชุด TICAC ได้รับแจ้งเบาะแสจาก มูลนิธิพิทักษ์สตรี Alliance Anti Trafic หรือ AAT ซึ่งเป็น NGOs ดำเนินงานในด้านการป้องกัน คุ้มครอง และฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหายจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์ ว่าได้พบ วิดีโอคลิปชายไทยรายหนึ่งได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิงอายุไม่เกิน 10 ปี

ต่อมา ตำรวจไซเบอร์จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ กระทั่งวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา สามารถจับกุมคนร้าย ชื่อ นายเผ่าพันธ์ อายุ 39 ปี ในความผิดฐาน ค้ามนุษย์จากการแสวงหาประโยชน์โดย มิชอบ โดยวิธีการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก รวมถึงข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำชำเรานั้นไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนหรือผู้อื่น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อทำการขยายผล ทำให้พบว่า นายเผ่าพันธ์ ได้มีการติดต่อเพื่อขายคลิปวิดีโอให้แก่ นายชัยธัช หรือ ท็อป อายุ 25 ปี โดยนายท็อปมีพฤติการณ์ สั่งให้นายเผ่าพันธ์ กระทำอนาจารเด็กผู้เสียหายด้วยวิธีการต่างๆ และเมื่อไหร่ที่เด็ก ซึ่งเป็นเหยื่อของนายเผ่าพันธ์ ไม่ยินยอมให้กระทำอนาจาร นายท็อป ก็มักโอนเงินให้นายเผ่าพันธ์ นำไปซื้อของเพื่อเอาใจเด็กที่ตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

จากการสืบสวน ทราบว่า นายท็อป เคยตกเป็นผู้ต้องหาที่เคยถูกทางตำรวจไซเบอร์จับกุมในคดีลักษณะเดียวกันมาก่อน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาล แต่ไม่ได้มีการสำนึกผิดแต่อย่างใด แม้ได้รับการประกันตัวออกมา แต่ยังกลับมาก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดิม

ทั้งนี้ทางตำรวจ บก.สอท. เล็งเห็นว่าบุคคลดังกล่าวถือว่าเป็นภัยต่อสังคมและเป็นบุคคลอันตรายต่อเด็กหรือเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง จึงให้เร่งออกหมายจับ กระทั่งวันที่ 30 มกราคม พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้นำหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลง 29 มกราคม 2568 เข้าจับกุมตัว นายชัยธัช หรือ ท็อป อายุ 25 ปี ในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานการค้ามนุษย์ โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง

จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว พบประวัติการสนทนาระหว่าง นายเผ่าพันธุ์ และนายชัยธัช หรือ ท็อป รวมทั้งข้อมูลการส่งสื่อลามกอนาจารเด็กทั้งเด็กผู้เสียหายในคดีก่อน และผู้เสียหายอื่นอีกจำนวนมาก อีกทั้ง ยังพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับเพื่อขายสื่อลามกอนาจารเด็กผู้เสียหายด้วย โดยเริ่มทำตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.67 เป็นต้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาไม่มีความรู้สึกเข็ดหลาบแต่อย่างใดแม้เพิ่งโดนดำเนินคดี

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานอีกว่า นายชัยธัช หรือ ท็อป ได้ส่งกางเกงในเด็กไปให้เหยื่อที่ตกเป็นผู้เสียหาย และให้นายเผ่าพันธุ์ถ่ายรูปและวิดีโอส่งกลับมาให้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ตรงกับพยานหลักฐานที่ทางชุด TICAC ของตำรวจไซเบอร์เคยได้รับข้อมูลจากผู้ปกครองว่า มีคนร้ายส่งกางเกงในไปให้บุตรสาวของตน และพยายามยุยงให้บุตรสาวของตนถ่ายรูปกลับไปให้ จึงเชื่อว่าอาจเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัลต่อไป