"กัน จอมพลัง" แฉคลิปเสียงตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอก สังกัด สภ.คลองหลวง ชี้แนวทางรอดคดีให้ "แก๊งโอริโอ้"

วันที่ 3 ก.พ. 2568 นางสาวอังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร หรือ "ทนายโรส" เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาในฐานะตัวแทนของ "กัน จอมพลัง" นำหลักฐานซึ่งเป็นคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างพ่อของผู้ต้องหาในแก๊งโอริโอ้ กับตำรวจนายหนึ่งยศ "ร้อยตำรวจเอก" สังกัด สภ.คลองหลวง ให้คำแนะนำเรื่องคดีความ เพื่อช่วยลดหย่อนโทษ ซึ่งมีจำนวนหลายคลิป แต่วันนี้จะเปิดสู่สาธารณะเพียงคลิปเดียวก่อน และมีบางคลิปกลุ่มผู้ต้องหามีการอ้างว่ารู้จักกับตำรวจระดับผู้บังคับการอีกด้วย

โดยเนื้อหาของคลิปเสียงที่มาเปิดเผยวันนี้ เป็นการสนทนาด้วยภาษาเหนือ ซึ่งสามารถสรุปใจความได้ว่า พ่อขอผู้ต้องหาแจ้งกับตำรวจว่าลูกชายของตนจะถูกแจังข้อกล่าวหาพยายามฆ่าหรือไม่ เพราะผู้เสียหายในการกล่าวอ้างว่าลูกชายของตนเอาปืนไปจ่อหัว ซึ่งตำรวจนายนั้นก็ให้คำแนะนำไปว่า ให้การปฏิเสธข้อหานี้ และให้การไปว่าไม่มีเจตนาที่จะยิงเป็นเพียงแค่การข่มขู่เท่านั้น และให้รับสารภาพข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ที่ใช้อาวุธไม้และเหล็กตีก็เป็นการบันดาลโทสะ ซึ่งมีการจ่ายค่าเยียวยาชดใช้ไปแล้ว 300,000 บาท ส่วนเรื่องอาวุธปืนให้ปฏิเสธว่าไม่มีอาวุธปืน เพราะพยานฝั่งผู้เสียหายไม่สามารถสืบได้ว่าเรามีปืนจริงหรือไม่ พร้อมกับบอกอีกว่าถ้าหากให้การตามนี้อาจจะได้รับการลดหย่อนโทษ หรืออาจจะพิจารณารอลงอาญาได้

 

 

ทนายโรสยังบอกอีกว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าตำรวจนายนั้นเป็นพนักงานสอบสวนในคดีนี้ หรืออยู่ฝ่ายงานสอบสวนหรือไม่ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ควรให้คำแนะนำกับผู้ต้องหาแบบนี้ เนื่องจากไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ส่วนจะมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น รวมทั้งคลิปเสียงอื่น ๆ ตนได้ฟังบ้างแล้ว มีนายตำรวจเพียงคนเดียวที่ให้คำแนะนำกับครอบครัวผู้ต้องหา ซึ่งตนยังไม่ขอเปิดเผยว่ามีตำรวจนายอื่นร่วมด้วยหรือไม่ แต่ให้รอทางด้าน กัน จอมพลัง เป็นคนออกมาเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจมีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์จนอยากถามว่า สถานะเป็นผู้ใช้กฎหมาย คุณทำแบบนี้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่คดีนี้มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนที่ทำงานอย่างหนัก ตรงไปตรงมา แต่กลับมีนายตำรวจแค่ไม่กี่คน จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบคลิปเสียงทั้งหมดว่าเข้าข่ายความผิดอาญาและวินัยหรือไม่

 

 

"กัน จอมพลัง" เตรียมเช็กบิลรายตัว "แก๊งโอริโอ้" ซ้ำยังตอกหน้า 2 ตำรวจ คลองหลวงเงิบ หลังพบให้การช่วยเหลือ ฝั่งผู้ก่อเหตุ

 

ต่อมาทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ กับแก๊งค์โอริโอ้ ว่าหลังจากกลับจากต่างประเทศแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป กัน จอมพลัง บอกว่า ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ตนจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อถึงแล้วตนจะไม่พักและดำเนินการกับแก๊งโอรีโอ้ทันที แต่ยังบอกถึงวิธีการจัดการไม่ได้ แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะดำเนินการรายตัวให้ครบทุกคน

ส่วนเรื่องตำรวจ สภ.คลองหลวง ที่ตนได้ให้ทีมงานนำคลิปเสียง การสนทนากับพ่อผู้ต้องหามาเปิดในวันนี้นั้น ตนจะเร่งดำเนินการพร้อมกับจัดการแก๊งค์เด็กทะลุถุงทันที เพราะนอกจากคลิปที่เปิดในวันนี้ยังมีอีกหลายคลิปที่เตรียมจะเปิดต่อสื่อมวลชนมวล และผ่านทางเพจ กันจอมพลังช่วยสู้

ตนมองว่าการที่ตำรวจทำตัวเป็นทนายความ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมพร้อมยังฝากไปถึงตำรวจทั้งสองนายที่กำลังตกเป็นข่าวในขณะนี้ว่า หากคุณเหนื่อยกับการทำงาน ก็ให้ลาออกมาเป็นทนายความให้ฟังผู้ต้องหา เพราะการกระทำของตำรวจทั้งสองนายนั้นทำให้ส่งผลเสียต่อองค์กรตำรวจ หากมีประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ก็จะไม่กล้าไปแจ้งความกับทางตำรวจ เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้รับข้อมูลจากตำรวจและได้รับการช่วยเหลือต่อไป

นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังบอกอีกว่า การกระทำของกลุ่มตำรวจสองคนนี้ เสมือนการไม่ให้เกียรติผู้บังคับบัญชาหรือผู้กำกับ สภ. คลองหลวง เพราะมีการพูดในลักษณะการด้อยค่าท่านผู้กำกับในคลิปเสียงที่มีการนำมาเปิด อีกทั้งการกระทำดังกล่าวที่พยายามติดต่อหาผู้หลักผู้ใหญ่ให้เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ก็เป็นการให้เกียรติผู้บังคับบัญชาอย่างผู้กำกับเช่นเดียวกัน

ซึ่งตอนนี้ทางด้าน กัน จอมพลัง ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมกับผู้กำกับสภ. คลองหลวง ได้ทราบแล้ว ต้องรอติดตามต่อไป ว่าหลังจากนี้จะมีบทลงโทษอย่างไรกับตำรวจทั้งสองนาย ส่วนผู้กำกับสภ. คลองหลวง ทางด้าน กัน จอมพลัง ยืนยันว่าเป็นตำรวจน้ำดีช่วยเหลือการดำเนินคดีกับแก๊งเด็กทะลุถุงมาโดยตลอดเพราะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการกับตนอยู่บ่อยครั้ง จึงขอย้ำไว้ว่า ตำรวจดีก็มี ส่วนตำรวจที่ไม่ดีก็จะไม่เก็บไว้

สุดท้ายกันจอมพลัง บอกว่าหลังจากนี้ยังมีเรื่องให้ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง และยังมีอีกหลายประเด็นที่ตนยังคงต้องดำเนินการ ขอให้ทุกคนได้รอติดตาม ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด