"ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" บุกช่วยสาวท้องอ่อน หลังถูกผัวใหม่สุดซาดิสม์ จัดหนักมีเซ็กส์วันละ 3 ครั้ง แถมซ้อมจนสลบต่อหน้าลูก
วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. มูลนิธิเป็นหนึ่ง โดยต้นอ้อ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ ต.นครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เข้าพบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี โดยได้ทำการสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากการถูกสามีซ้อมทำร้ายร่างกายและความปลอดภัยของเด็กในท้องที่ น.ส.เอ กำลังตั้งครรภ์อยู่
จากนั้น ทางด้านมูลนิธิเป็นหนึ่งและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวฉะเชิงเทรา ได้พาตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) เดินทางมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยก่อนหน้านี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบดำเนินการไปพาตัว นายสมหมาย (สามี) จาก อ.บางน้ำเปรี้ยว เพื่อมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในการดำเนินการสอบสวน และทำการตกลงในการเลิกยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน โดยในขณะนี้
จากนั้นทางด้าน นางกาญจนา ลูกพี่ลูกน้อง ได้กล่าวว่า ตอนที่น้องตนโดนทำร้ายร่างกายนั้น ลูกติดของน้องสาวก็ยืนอยู่ข้างๆ ตอนน้องสาวตนถูกทำร้าย ลูกชายได้ร้องเรียกให้คนช่วยแม่ แต่นายสมหมายได้พูดว่า ช่วยด้วยเหรอ แล้วก็เตะ โดยจะเตะทุกครั้งที่ลูกร้องเรียกให้คนช่วย
ทางด้านคนข้างบ้าน ที่เห็น น.ส.เอ มาตั้งแต่เด็ก กล่าวว่า ตนพอเห็นว่าแฟนคนนี้ของ น.ส.เอ. เป็นคนขี้หึงมาก และ ชอบทำร้ายร่างกาย ขนาดเด็กน้อยมันยังตบเลยซึ่งนายสมหมายเคยขับ น.ส.เอ ไปกักขัง ไม่ให้ออกมาจากบ้าน ส่งข้าวส่งน้ำอยู่ระยะนึง มันหึงเพราะ น.ส.เอ ยังติดต่อกับแฟนเก่าที่มีลูกติดมาด้วยกัน แต่ก็เป็นเรื่องปกติไหมที่ พ่อของลูกติดจะต้องสอบถามสารทุกข์สุกดิบกับแม่ของเด็ก และตอนนี้ น.ส.เอ ก็ท้องอ่อนๆ กับ นายสมหมายอยู่ด้วยยังทำรุนแรงได้ขนาดนี้ ตนว่ามันทำเกินไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2568 นายสมหมาย ได้ติดต่ออยากจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านพักหลังหนึ่ง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อพูดคุยกับนายสมหมายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายสมหมาย กล่าวยอมรับว่า ตนมีอะไรกับ น.ส.เอ จำนวนหลายครั้งต่อวันจริง เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องปกติของคนในครอบครัว อีกทั้ง น.ส.เอก็ยินยอมตนทุกครั้งที่มีอะไรกัน ตนยอมรับว่าทำ น.ส.เอ จริง เนื่องจากมีความกดดันหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัวของตนเองและเรื่องที่บ้านของ น.ส.เอที่ไม่ยอมรับตน นายสมหมาย กล่าวว่า ตนพยายามพูดจาปรับความเข้าใจกันมาหลายรอบแล้วแต่ไม่เป็นผล ส่วนวันที่เกิดเรื่องตนได้ดื่มเบียร์ไปหลายขวด ก่อนเดินทางไปหาน.ส.เอที่บ้านในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ขณะที่ลงมือทำร้าย น.ส.เอ นั้นเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง และน.ส.เอเดินหนี จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบลงมือทำร้ายไป
นายสมหมาย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องตนให้พี่สาวไปดูอาการและฝากเงินไปให้ น.ส.เอไว้ใช้กิน ทั้งนี้ ตนรักน.ส.เอ อยากให้มาอยู่กับตน กินของดี ๆ ตนทำเพื่อน.ส.เอมาโดยตลอด ตนเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะน.ส.เอไม่มีงานทำ และตนก็เป็นคนเลี้ยงดูมาตลอด ส่วนเรื่องถ้าเลิกกันแล้วตนขู่จะไปทำร้าย อันนี้ไม่เป็นความจริง ตนอายุเข้าเลข 3 แล้ว มีความคิดมีภาระเยอะ คงจะไม่เอาอะไรไปเสี่ยงแบบนั้น ส่วนต่อจากนี้หาก น.ส.เอ จะแจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้น ก็พร้อมว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ยินดีจะชดใช้เรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ต้องหาเงินก่อน เนื่องจากเงินที่มีนั้น ได้ใช้เลี้ยงดู น.ส.เอ ไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จะได้ทำการสอบสวน และติดตามดำเนินการตามกฎหมายต่อไป