สำเร็จ! ทีมวิจัยกรมประมง ผลิตปลาหมอคางดำ 4n เมื่อไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำในธรรมชาติ (2n) ทำให้ลูกเป็นหมัน ปล่อยทดสอบในหน่วยทดลองครั้งแรกวันนี้

วันที่ 4 ก.พ. 2568 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ โดยมีนายอาคม ชุ่มธิ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ นายคงภพ อำพลศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำและประธานคณะทำงานโครงการเหนียวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ให้การต้อนรับพร้อมรายงานความก้าวหน้าโครงการฯ ว่า จากนโยบายของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมงและประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ กรมประมงจึงได้ดำเนินโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ เป็นไปตามมาตรการที่ 6 จากทั้งหมด 7 มาตรการในการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ โดยการนำหลักพันธุศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อการควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ โดยใช้เทคนิคการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม จากเดิมที่มีจำนวนชุดโครโมโซมตามธรรมชาติ 2 ชุด หรือ 2n ให้เป็นปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด หรือ 4n โดยจะนำปลาหมอคางดำ 4n เพศผู้ ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำซึ่งมีชุดโครโมโซม 2n ในธรรมชาติ โดยลูกปลาหมอคางดำที่ได้จากการผสมในลักษณะนี้จะได้ลูกปลาฯ ที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด หรือ 3n มีลักษณะที่เป็นหมันไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อไปได้

สำหรับการดำเนินการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซมปลาหมอคางดำ ในครั้งนี้ ดำเนินการเหนี่ยวนำด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 40 °C เป็นระยะเวลา 5 นาที ณ เวลา 80 นาทีหลังผสม ได้ปลาหมอคางดำที่สามารถเจริญเติบโตจนมีอายุ 3 เดือน จำนวน 1,112 ตัว และมีจำนวนปลาหมอคางดำที่มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับติดเครื่องหมาย PIT tag ได้ 703 ตัว และสามารถเจาะเลือดเพื่อตรวจสกรีนจำนวนชุดตรวจโครโมโซมแบบ (pool sample) จำนวน 551 ตัว (135 pools) ด้วยเครื่อง flow cytometer พบรูปแบบการแสดงผลเป็นโครโมโซม 4n จำนวน 20 pools และดำเนินการตรวจยืนยันจำนวนโครโมโซมรายตัวแล้วจำนวน 1 pool พบปลาหมอคางดำที่มีโครโมโซม 4n เเละขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบยืนยันผลรายตัวจนครบ 20 pools ภายในเดือนมีนาคม 2568

ขณะเดียวกัน คณะทำงานได้ดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการเหนี่ยวนำโครโมโซม เพิ่มเติมจำนวน 9 รูปแบบ โดยมีการตรวจสอบจำนวนชุดโครโมโซมเป็นระยะ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซมให้เหมาะสมเเละเพียงพอเพื่อขยายปล่อยลงเเหล่งน้ำ ควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำในเเหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

ที่สำคัญในวันนี้ กรมประมงได้ดำเนินการปล่อยปลาหมอคางดำเพศผู้ที่มีโครโมโซม 4n เข้าผสมกับปลาหมอคางดำเพศเมียที่มีโครโมโซม 2n ในหน่วยทดลอง เพื่อศึกษาการเข้าคู่ผสมพันธุ์ เเละความสามารถในการเเข่งขันการเข้าคู่ผสมพันธุ์โดยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ลูกปลาที่มีชุดโครโมโซม 3n ซึ่งมีลักษณะเป็นหมันต่อไป



นอกจากนี้ การติดตามโครงการในวันนี้ อธิบดีกรมประมงเเละคณะได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยปรับปรุงพันธุ์กุ้งขาวสายพันธุ์เพชรดา 1 ที่กรมประมงได้ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์และดำรงรักษาสายพันธุ์ไว้ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี มีการเลี้ยงทดสอบการเจริญเติบโตเพื่อให้เป็นพ่อเเม่พันธุ์ในบ่อผ้าใบนอกอาคาร ไม่ควบคุมอุณหภูมิ และการเลี้ยงในอาคารที่สามารถคุมอุณหภูมิได้ พบว่า การเลี้ยงกุ้งขาวสายพันธุ์เพชรดาทั้งสองรูปเเบบ ปัจจุบันมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ตั้งเเต่รุ่น Po ถึงรุ่น P6 เเละจากการศึกษาผลการเจริญเติบโตของกุ้งขาวสายพันธุ์ "เพชรดา 1" ในฟาร์มเกษตรกรและในศูนย์ฯ พบว่า “เพชรดา 1” มีค่าเฉลี่ยการเจริญเติบโตสูงกว่าพันธุ์กุ้งแหล่งอื่นที่นำมาเปรียบเทียบ จากนั้นอธิบดีกรมประมงได้มอบพันธุ์ปลากะพงขาวที่เป็นปลาผู้ล่าในธรรมชาติ ตามมาตรการเเก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ มาตรการที่ 1 ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ไปปล่อยในเเหล่งน้ำธรรมชาติเเละบ่อที่ถูกบุกรุกเพื่อกำจัดเเละควบคุมปริมาณปลาหมอคางดำ