แก๊งตำรวจเอไอคอลเซ็นเตอร์ ลวงเมียอดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดรีสอร์ตวิดีโอคอล โชคดีสามีเอะใจ แจ้งตำรวจช่วยทันก่อนโอนเงินหวุดหวิด
วันที่ 5 ก.พ. 2568 เมื่อเวลา 13.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท นำกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยนาท หลังรับแจ้งเหตุแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับบทเป็นตำรวจปลอมผ่านเอไอ โดยมี ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี อายุ 56 ปี อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แจ้งความ เพราะผู้เสียหายคือภรรยา ชื่อนางสาวบี (นามสมมติ) ข้าราชการระดับ 7 ฝ่ายการเงิน ของหน่วยงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท
ตำรวจนำกำลังไปเคาะประตูขอเข้าไป นางสาวบีเปิดประตูออกมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก ในมือถือโทรศัพท์คุยวิดีโอคอลอยู่ ปลายสายคือตำรวจเอไอ อ้างเป็น ร.ต.อ.ธนาวิทย์ วงษ์มูน รองสว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี พอตำรวจจริงขอคุยด้วย ปลายทางชิ่งวางสายก่อน ดีที่สามีไหวตัวทันแจ้งตำรวจมาช่วยไว้ได้ก่อนที่จะโอนเงิน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป
ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี เปิดเผยว่า ตนเป็นสามีของผู้เสียหาย จู่ๆ ตอนเช้า ภรรยารับโทรศัพท์ ตนได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิด เปิดบัญชีที่ธนาคารในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 14 ล้านบาทเพื่อฟอกเงิน แล้วภรรยาก็ขับรถออกจากบ้านไม่รู้ไปไหน ไม่ใส่ชุดข้าราชการไปทำงาน มารู้อีกที ภรรยาส่งข้อความมาบอกว่าอยู่ที่ รีสอร์ตในตัวเมืองจึงรีบมา ก็เจอรถภรรยาจอดอยู่จึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที เพราะคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่นอน กลัวว่าภรรยาจะถูกอุ้ม ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่
จากการสอบถามภรรยาจึงทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หว่านล้อมให้มาเปิดห้องไว้เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ และผ่อนหนักเป็นเบา ทางภรรยาก็หลงเชื่อ ทางภรรยากลัวว่าจะมีความผิดเพราะตนเป็นข้าราชการด้วย กลัวกระทบกับงาน ตนก็เข้าใจและไม่อยากตำหนิ
อยากฝากไปถึงรัฐบาลให้เข้มงวดกวดขันจับพวกโกงกินประชาชนไปให้หมดบ้านหมดเมือง อีกทั้งเรื่องข้อมูลที่หลุดรั่วออกไป เพราะทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นซื้อข้อมูลทั้งหมดไว้ในมือแล้ว ปราบก็ต้องปราบให้จริงจัง ไม่ควรเหยาะแหยะ ไม่งั้นประชาชนตาดำๆ ลำบากแน่นอน