ครอบครัว "พีม" เศร้า พร้อมขอโทษสังคม-ผู้เสียหาย ไม่ทราบพฤติกรรมลูกชายมาก่อน ตกใจหลังเห็นข่าว พร้อมให้ลูกชดใช้ตามความผิด ไม่ขอยื่นประกันตัว

ต่อมาเวลา 12.40 น. ภายหลังที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ “นายพีม” แล้วเสร็จ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะคุมตัวออกจากห้องสอบสวน  โดยที่ทางพ่อและแม่ ของเจ้าตัวรออยู่บริเวณหน้าห้องสอบสวน โดยระหว่างที่เจ้าตัวออกมา ปรากฎว่าทาง “นายพีม” ได้มีการโผล่กอดและยกมือไหว้พ่อแม่ ด้วยสีหน้าเศร้า  ก่อนที่ทางแม่ของเจ้าตัวได้โอบกอดลูกด้วยความรักและสีหน้าที่เศร้าเช่นกัน  

 

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ นำตัวออกมาปรากฏว่าทีมข่าวได้พยามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมไปถึงกรณีกระแสข่าวที่ทางมหาวิทยาลัยได้มีการออกประกาศไล่ออกและพ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าตัวเองก็ไม่ตอบคำถามก้มหน้า เดินเข้าห้องขังก่อนจะพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยระหว่างนั้นทางพ่อและแม่ของ “นายพีม” ได้พยายามมองจากด้านนอกเพื่อจะขอเข้าเยี่ยมลูก ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาติให้เยี่ยมผ่านจากด้านนอก  

โดยทางครอบครัว “พ่อและแม่” ของ “นายพีม” ได้สอบถามเรื่องราวส่วนตัว และเรื่องเกี่ยวกับคดี รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ และห้องพักที่ต้องไปขนของออก  แต่ทาง “นายพีม” กลับบอกแค่ว่าเดียวจะจัดการเอง หลังจากนั้นทาง “แม่” ของ “นายพีม” บอกบางช่วงบางตอน “ อดทนนะลูก ออกมาก็ปรับปรุงตัวใหม่นะ แม่รออยู่ ผิดก็ยอมรับผิดไป เลิกนิสัยเก่าๆ ได้แล้ว  ก่อนจะทิ้งท้ายด้วย เป็นห่วงนะ “  

 

หลังจากนั้นทางทีมข่าวได้สอบถามหลังจากที่ได้พูดคุยกับลูกโดยแม่ ”นางนุ้ย” ได้เปิดใจว่าได้บอกกับทางลูกว่าให้อดทนและปรับปรุงตัวใหม่  แม่เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนกรณีที่ลูกถูกให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย  ก็ให้เป็นไปตามนั้น ยอมรับว่าส่วนตัวก็เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูก รวมไปถึงสภาพจิตใจของฝั่งคู่กรณีหรือผู้เสียหาย และอยากจะกล่าวขอโทษกับทางครอบครัวและตัวน้องที่ถูกทำร้าย ที่ลูกของตนไปทำเช่นนั้น รวมไปถึงตนเองก็อยากจะขอโทษสังคมที่ตนในฐานะแม่บกพร่องกับการทำหน้าที่และเลี้ยงลูกไม่ดีพอ เผยอดีตลูกไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน เป็นเพราะส่วนหนึ่งลูกออกมาเรียนมหาวิทยาลัย ตนเลยไม่ทราบว่าพฤติกรรมนอกบ้านลูกเป็นอย่างไร  เผยวันที่เกิดเรื่องยอมรับว่าตนเองเห็นข่าวก็ตกใจและได้ติดต่อลูกไปซึ่งลูกเองก็บอกว่าให้รอในส่วนของเรื่องคดีความแล้วเล่าทุกอย่างให้ฟัง ส่วนตัวเครียดนอนไม่หลับมาตั้งแต่วันแรก 

 

ส่วนตัวได้บอกให้ลูกหากพ้นโทษออกมาอยากให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ซึ่งเขาก็รับปาก  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนก็อยากจะขอโทษแทนลูกและไม่ทราบว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวจะถามแค่เรื่องการเรียน และตอนนี้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง ประจวบกับเจ้าตัวเองก็ไม่เคยเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงิน ตนส่งเสียและจ่ายค่าเทอมให้ตลอด แต่ก็มีบ้างที่คอยเตือนลูกให้ใช้จ่ายประหยัด แต่เขาก็ไม่ค่อยฟังมักจะอยากได้สิ่งของตามเพื่อน เป็นสาเหตุที่เขาเองไปกรรโชกทรัพย์หรือไม่  หลังจากนี้ตนเองคงไม่ยื่นประกันตัวคงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม จะแล้วเสร็จหรือขั้นตอนสุดท้ายเป็นอย่างไรตนก็ต้องเคารพและให้ลูกของตนรับผิดชดใช้สิ่งที่ทำไป

 

หลังจากนั้นทางแม่ “นายพีม” ได้มีการไปซื้อข้าวกล่องจำนวน 2 กล่อง ลักษณะคล้าย “ข้าวหมูทอดกระเทียม ” และ“ข้าวผัด” มาฝากเยี่ยมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ