"ชูวิทย์" เปิดข้อผิดพลาด คดีตู้ห่าว จนสุดท้ายศาลยกฟ้อง

จากรณีที่ ศาลพิพากษา ยกฟ้องนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว-ภรรยา และพวกรวม 19 คน คดีอาชญากรข้ามชาติ ฟอกเงินและยาเสพติด ศาลชี้พยานหลักฐานโจทก์ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

ล่าสุดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้แสดงความเห็น ระบุถึงความผิดพลาดของคดีนี้ว่า

1. การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก

กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัวเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ยังไม่ได้เก็บข้อมูล โดยเฉพาะผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายหวัง เจิ้นหนาน หลานชายนายตู้ห่าว

2. เก็บหลักฐานไม่ครบถ้วน

ทั้งสถานที่ รถยนต์ และยังเว้นวรรคตามไปเก็บอีกภายหลัง ทำให้หลักฐานสูญหาย

โดยเฉพาะในคดียาเสพติดต้องมีหลักฐานครบถ้วนเพื่อเชื่อมโยง

แต่มีการขัดแย้งในการทำงาน เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ ทั้งตำรวจหลายหน่วย อัยการ ป.ป.ส. ร่วมกันลงพื้นที่ และมีประเด็นขัดแย้งกันเอง

ตำรวจบอกค้นไม่ได้ แต่ ป.ป.ส. บอกค้นได้ เป็นต้น

3. การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญหายไป จึงขาดการเชื่อมโยง

มีทั้งปล่อยผู้ต้องหากลางทาง ปล่อยรถของกลาง โดยมีคนหิ้วเงินมาให้ มีหลักฐานแต่ เรื่องเงียบ และตกหล่นหายไปตามกาลเวลา

4. มีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นตำรวจในการปกปิด ช่วยเหลือ ซึ่งขอไม่เอ่ยนาม ทำให้คดีตกหล่น สาระสำคัญออกไปจากสำนวน

5. มีการตัดต่อกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญ เซิฟเวอร์หายไป มีไม่ครบ ถูกตัดต่อ

คดีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ทราบว่า

เมื่อต้นน้ำของความยุติธรรมบิดเบี้ยว ย่อมส่งผลไปถึงปลายน้ำ

อิทธิพลของจีนเทายังมีอีกมาก และพร้อมจะขยายตัว หากกระบวนการยุติธรรมไม่แข็งแกร่งเพียงพอ

แต่อย่างน้อยคำว่า “จีนเทา” ก็ได้ถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้