กู้ภัยยังงมหาปืน-โทรศัพท์ต่อเนื่อง หลังมือยิงสารภาพใช้ฆ่า 3 พ่อแม่ลูก พบอุปสรรคน้ำลึกเป็นดินโคลน ด้านพี่ชายคนตาย เผยสงสัย "โน๊ต" มานานทำตีเนียนมาหาข้อมูลตลอด ลั่นขอคุยกันจัง ๆ ตอนทำแผนฯ

วันที่ 15 ก.พ. 2568 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดค้นหาใต้น้ำ “ธาราทีม” อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชร ธรรมสถาน จะมีการไปค้นหาปืนจำนวน 1 กระบอก รวมทั้งโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง บริเวณสระน้ำหมู่ที่ 8 บ้านร้อยไร่ ตำบลคลองขลุง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ห่างจากจุดยิงประมาณ 1.3 กิโลเมตร




ตามคำให้การของนายศิวกร หรือนายโน๊ต ที่อ้างว่า ไม่พอใจที่นายวงศกร ผู้ตาย บอกว่าจะให้ยืมเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปลงทุนทำธุรกิจทางการเกษตร (ตีเทิร์นโดรน) แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ตายทำเฉยไม่ให้เงิน วันเกิดเหตุมีการทวงถามเงินอีกแล้วเกิดทะเลาะวิวาท ก่อนจะคว้าปืนของตัวเองที่จำนำไว้กับผู้ตาย ซึ่งอ้างว่าอยู่ในรถผู้ตายเอามายิงนายวงศกร เสียชีวิตเป็นคนแรก จากนั้นยิงภรรยาและลูกชายเพื่อฆ่าปิดปาก เพราะครอบครัวผู้ตายรู้จักตนเป็นอย่างดี




หลังจากยิงทั้ง 3 คนแล้ว ก็โทร.ไปตาม ‘นายเข้’ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดฆาตรกรรมประมาณ 5 กิโลเมตร ให้มาช่วยยกศพขึ้นรถแล้วพากันออกไปจากจุดเกิดเหตุ เอารถไปซ่อนในบ้านร้าง ก่อนที่นายโน๊ตจะเอาทองของผู้ตายไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง โดยเจ้าของร้านทองให้เงินสดมาสามพันบาท ก่อนจะโอนเงินจนครบ 1 แสนบาท เข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง โดยนายโน๊ต อ้างว่า ทั้งหมดเป็นเหตุซึ่งหน้า ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน


ขณะที่ การค้นหาปืนและโทรศัพท์ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดี ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากความไม่ชัดเจนของจุดทิ้งพยานหลักฐาน เพราะเป็นสระขนาดใหญ่ด้านล่างเป็นดินโคลน จึงต้องใช้เวลาในการค้นหา ประกอบกับเป็นอาวุธปืนจึงต้องระมัดระวัง อาจจะเกิดอันตรายได้




ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ ได้เผยกับทีมข่าวว่า สระน้ำตรงนี้เป็นของโรงงานแห่งหนึ่ง และจุดนี้ก็เป็นบริเวณที่ชาวบ้านมักจะมาหาปลากันเป็นประจำอยู่แล้วทุกวัน ซึ่งทางเจ้าของที่ดินบริเวณนี้อนุญาตให้ชาวบ้านมาหาปลาและไม่ได้หวงห้ามพื้นที่ อีกทั้งมักจะมีชาวบ้านมาหาปลากันตลอดทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยจะมีคนพลุกพล่านตลอดทั้งวัน


ส่วนอุปสรรคในการค้นหาคือ สำหรับสระน้ำแห่งนี้ค่อนข้างลึก ประมาณ 3 เมตรกว่า อีกทั้งโดยปกติหากน้ำขึ้น ระดับน้ำก็จะสูงเสมอริมถนน ส่วนอุปสรรคในการค้นหาครั้งนี้คงจะเป็นเรื่องของดินโคลน เนื่องจากชาวบ้านมักมีการนำแกลบข้าวมาเททิ้งไว้ที่สระน้ำแห่งนี้ อีกทั้งในสระน้ำยังมีดินอยู่หลายชนิด ทั้งดินทรายดินโคลนและดินเหนียว แต่หากมีการขว้างปืนไว้จริง ยังไงก็คาดว่าน่าจะค้นหาเจอ




ขณะที่นายสุพัฒน์ ลูกพี่ลูกน้องกับนายวงศกร ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากทราบว่า ผู้ก่อเหตุนำพยานหลักฐานมาทิ้งบริเวณนี้ก็อาจเป็นไปได้ แต่มองว่าคนกระทำความผิด ใครจะมัวย้อนกลับมาทิ้งตรงจุดนี้ ทำไมไม่ทิ้งระหว่างเส้นทางหลบหนี


ส่วนมารู้ตัวผู้ก่อเหตุเป็นคนใกล้ตัวนั้น นายสุพัฒน์ เปิดเผยว่า คนใกล้ตัวกันมันไม่น่ามาทำกันได้ ตนภาวนามาตลอดว่าอย่าให้เป็นเหมือนที่ตนคิด ตนสงสัยมาตั้งแต่ตอนโจรขึ้นบ้าน ก็ทำทีมาตีเนียนตลอด พอช่วงน้องชายตนหายตัวไปก็ตีเนียนมาถามหาข้อมูล ตอนเจอศพก็ตามมาใกล้ชิดตลอด รวมทั้งทำตัวเลือดเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถามว่าถ้าเจอหน้ากันอยากคุยอะไรกับผู้ก่อเหตุ นายสุพัฒน์ พูดเพียงสั้น ๆ ว่า “รอคุยกันตอนทำแผนดีกว่า”