"อนุทิน" จ่อชงแก้ร่าง พ.ร.บ.การพนัน ดันแทงบอล-แทงหวยถูกกฎหมาย ยันทำตามนโยบายรัฐบาล เพิ่มโทษหนักคนลักลอบเล่น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หลังผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาการร่วมในกฎหมายดังกล่าวว่าสมัยก่อนเรื่องแบบนี้ให้มหาดไทยลูกเดียว ไม่ว่าจะเป็นกฏหมายเดิม หรือกฏหมายหลัก แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องการพนันเพียง 10% เรื่องพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หรือความปลอดภัยในอาคาร หรือการออกใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้าง ทั้งหมดเป็นเรื่องของมหาดไทย ส่วนกฏหมายการพนัน คือ กรมการปกครอง 

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับเกณฑ์ที่กำหนดให้คนไทยที่มีเงินฝาก 50 ล้านบาท ถึงจะเข้าเล่นกาสิโนได้ นายอนุทิน กล่าวว่าบอกแล้วว่า ตนไม่เล่นการพนัน แต่ส่วนตัวเอาตามนโยบายรัฐบาล บางอย่างขอไม่พูดดีกว่า แต่หากนโยบายรัฐบาลไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม หรือเป็นการจัดระเบียบ ตนก็สนับสนุน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่เกณฑ์ 50 ล้านบาทคงยากที่จะผ่านมติครม. 

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีมหาดไทยเตรียมเสนอครม. แก้ไขร่างพ.ร.บ. การพนัน เพื่อเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้น 25 ก.พ.นี้ และกรณีองรับพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย

ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ก.พ.นี้ ว่าถือเป็นตรรกะที่ถูกต้อง คนที่ลักลอบเล่นการพนันต้องมีโทษที่แรงขึ้น เพราะหากเปิดให้การพนันถูกกฎหมายจะได้รู้ว่าใครเล่นการพนัน และเสียค่าธรรมเนียมอย่างไร ซึ่งจะควบคุมผู้ที่เข้ามาเล่นได้ไม่ให้หมดตัว แต่ที่ผ่านมาคนเล่นพนันผิดกฎหมายมีโทษต่ำ เสียค่าปรับแล้วปล่อยกลับบ้านจากนั้นก็กลับมาเล่นใหม่ ต้องการทำให้คนเล่นมีโทษเราจึงต้องการให้คนเล่นการพนันผิดกฎหมายได้รับโทษมากขึ้น เพื่อเป็นตรรกะรองรับการพนันออนไลน์ และการพนันประเภทต่างๆ ที่ถูกกฎหมาย หรือโดยสรุปคือหากใครจะทำการพนันถูกกฎหมายต้องขออนุญาต แต่หากใครยังลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมายจะได้รับโทษหนักทั้งผู้เล่น และเจ้าของ 

“ขณะนี้พนันออนไลน์มีบัญชี ข. ถ้าแก้ไขกฎหมายการพนันผ่าน และออกประกาศกฎกระทรวงเรื่องการพนันประเภท ข. เข้าไปถูกกฎหมาย เช่น ทายผลบอล ทายผลมวย ส่วนบัญชี ก. ถ้าจะทำเป็นพนันออนไลน์ต้องไปแก้กฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหาหากรัฐบาลมีเสียงเต็มอยู่ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องจัดระเบียบก่อน โดยมีโทษที่หนักขึ้นสำหรับผู้ที่ลักลอบเล่นการพนัน” หากจะออกกฎกระทรวงประเภท ข. ต้องนำเข้าให้ ครม.เห็นชอบ