ฆ่าโหดหนุ่ม 31 ปี ถูกยิง 4 แผล หมกโคนต้นยาง คาดถูกฆ่าที่อื่น นำศพมาทิ้งอำพราง

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.68 ร.ต.อ.พิชิต หนูส่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหนองเอื้อง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ภายในสวนยางพารา พื้นที่ หมู่ 1 บ้านส้มเฟือง ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

ภายหลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหนองเอื้อง กำลังชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง กก.สส.2 บก.สส.ภ.9 ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง นายนพรุจ ควนวิไล หรือใหญ่เอก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางด้วน หน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพร่วมใจย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัยสว่างภักดีย่านตาขาว

ที่เกิดเหตุ เข้ามาภายในสวนยางพารา ห่างจากถนนซอยประมาณ 500 เมตร บริเวณใต้โคนต้นยางพารา พบศพของ นายทิวากร อายุ 31 ปี หรือบู๊ ชาวต.สะพานไม้แก่น จ.สงขลา สภาพนอนตะแคงขวา สวมเสื้อยืด กางเกงวอร์มขายาวสีดำ สวมรองเท้าบูตสีดำ คาดกระเป๋าคาดเอว 1 ใบ และคาดผ้าขาดม้าบริเวณเอว 1 ผืน

ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบบาดแผลคาดว่าน่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืน คาดว่าเป็นขนาด 9 มม. เข้าที่ลำคอทะลุท้ายทอย 1 แผล ศีรษะอีก 1 แผล ขมับขวา 1 แผล และรักแร้ทะลุสะบักหลัง 1 แผล รวม 4 แผล

ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นรถที่ผู้ตายใช้งานอยู่ จากการตรวจสอบมีผู้ครอบครองเป็นชาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพจอดลงขาตั้ง พร้อมกุญแจเสียบติดอยู่ อยู่ในเกียร์ว่าง ไม่มีไฟท้าย บริเวณคอรถพบถุงพลาสติกมีน้ำอยู่ภายใน คาดเป็นถุงน้ำแข็งก้อนที่ละลายแล้ว

บริเวณตะกร้ารถพบมีมีดพกจำนวน 2 เล่ม กรรไกร 1 เล่ม มีดกรีดยาง 1 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระปุกสีขาว 1 ชิ้น รองเท้าแตะ 1 คู่ และกางเกงขายาว 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-10 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง

ทั้งนี้ห่างจากศพเข้าไปประมาณภายในสวนยางพาราประมาณ 50 เมตร มีบ้านร้าง 1 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายใน ไม่พบหลักฐานหรือพยานใดๆ

แนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า ในช่วงเช้าวันนี้ มีชาย ซึ่งเป็นคนกรีดยางอยู่ที่สวนยางพาราดังกล่าว ในระหว่างกำลังกรีดยาง มาพบศพผู้ตายนอนอยู่แล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

ส่วนผู้ตายนั้นทราบว่า พื้นเพเป็นชาว อ.จะนะ จ.สงขลา มาอยู่อาศัยในพื้นที่ จ.ตรัง โดยไปๆมาๆ แต่คาดว่าที่มาอยู่ติดต่อกันประมาณ 2-3 ปี โดยมีญาติอยู่ในพื้นที่ ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง และมีเพื่อนสนิท รวมถึงหญิงสาวคนสนิทอยู่ในพื้นที่ บ้านบ่อถ่าน ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน รอยต่อระหว่าง บ้านคลองปะเหลียน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ตามรายงานมักจะมาพบหาและคบหากับเพื่อนฝูงและพรรคพวกอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ

จากการตรวจในที่เกิดเหตุ มีการตั้งข้อสังเกตจากเจ้าหน้าที่ในหลายส่วน เนื่องจากบริเวณเสื้อของผู้ตายมีคราบเลือดที่ค่อนข้างน้อยมาก รวมถึงพื้นบริเวณจุดเกิดเหตุแทบจะไม่มีเลือดไหลนอง ขัดแย้งกับหลักความเป็นจริง หากเป็นการถูกฆาตกรรมที่จุดดังกล่าว รวมทั้งรองเท้าบูตที่ผู้ตายสวมใส่มีขนาดใหญ่กว่าเท้าค่อนข้างมาก อาจจะเป็นการลงมือฆาตกรรมจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดีในจุดดังกล่าวก็เป็นไปได้

โดยข้อมูลจากชาวบ้านอีกส่วนระบุว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.30 ของวานนี้ (21 ก.พ.) ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 5 นัด แต่ก็ยังขัดแย้งกับเวลาที่เจ้าหน้าที่ชันสูตร พลิกศพที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่เกิน 12 ชั่วโมง ขณะที่บาดแผลคาดว่าเป็นการยิงใกล้ตัว แต่ไม่ถึงระยะประชิด

จากการสอบถาม นายนพรุจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางด้วน กล่าวว่า จากการที่คนมาพบตอนแรกคิดว่าเป็นคนนอนหลับ หรือเป็นลม แต่กลับมาพบว่าเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม ส่วนผู้ตายไม่ได้เป็นคนในพื้นดังกล่าว โดยเป็นคนนอกพื้นที่แต่เป็นพื้นที่ติดต่อกัน จากข้อมูลคาดว่าอาจจะมีเพื่อนฝูงอยู่ในพื้นที่บ้าง และชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นช่วงเย็นวานนี้ แต่ไม่แน่ชัดว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่

จากการตรวจสอบประวัติคดีทางอาญา พบว่าเมื่อปี พ.ศ.2558 ผู้ตายเคยถูกจับกุมในคดีครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ในพื้นที่ สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง และในปี พ.ศ.2560 เคยถูกจับกุมในคดี มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไม่มีทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ สภ.ปะเหลียน เช่นเดียวกัน โดยชั้นพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องทุกข้อหาทั้ง 2 คดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ มอบร่างให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยนำไปส่งให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพ อย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ปะเหลียน ก่อนจะนำร่างส่งไปผ่าอย่างละเอียดที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอบริเวณรอบรถจยย.ที่อยู่ติดกับร่างผู้ตาย ส่วนทางพนักงานสอบสวนจะเชิญ ผู้ใหญ่บ้าน คนพบศพ และญาติผู้ตาย ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนทางชุดสืบสวนจะลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว หรือขัดแย้งกันในเรื่องยาเสพติด ซึ่งอยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป