อดีตครูเกษียณ ควบเก๋งจากงานเลี้ยงหลุดโค้งชนจักรยานยนต์ ลากไปกว่า 30 เมตร เสียชีวิต 2 ราย โต้กับญาติผู้เสียชีวิตว่าไม่เมา จนหวิดลงไม้ลงมือกัน ตำรวจให้เป่าแอลกอฮอล์พบเกินกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.เจษฏา ชิดประทุม พนักงานสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ถนนบำเหน็จฯ-จัตุรัส ก่อนถึงหน้าเทศบาลบำเหน็จณรงค์ ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อ Hyundai จอดอยู่กลางถนน ด้านหน้าพังยับเยินและมีคราบเลือดติดอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ และพบรถจักรยานยนต์ Honda Wave สีน้ำเงินดำ สภาพเละ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนถูกชนติดอยู่ หน้ารถมีลอยลากมาตามถนนไกลกว่า 30 เมตร

พร้อมกันนี้ ยังพบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนน สภาพหัวเละเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายสุชาติ อายุ 46 ปี อยู่ในจุดเกิดเหตุ

ทั้งนี้ ยังพบว่ามีผู้บาดเจ็บนอนจมกองเลือดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือนำส่ง รพ.บำเหน็จณรงค์ เป็นการด่วน ทราบชื่อคนเจ็บคือนายเอนก อายุ 30 ปี ต่อมา รพ.บำเหน็จณรงค์ ได้ส่งต่อรักษาที่ รพ.ชัยภูมิ และเสียชีวิตในขณะรักษาตัว

สอบถามนางประไพศรี อายุ 67 ปี ยอมรับว่า เป็นคนขับรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อ Hyundai ชนกับรถจักรยานยนต์ Honda Wave สีน้ำเงินดำจริง ตนไปงานเลี้ยงที่อำเภอจัตุรัสมา และก็เดินทางกลับมาทางอำเภอบำเหน็จณรงค์ ขับรถมาตามปกติ และได้พุ่งชนกับรถจักรยานยนต์อย่างจังจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่ทางญาติผู้เสียชีวิตมาดูเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุปัดว่าตนไม่เมาจึงมีปากเสียงกับญาติผู้เสียชีวิตจนหวิดวางมวยกัน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เป่าวัดแอลกอฮอล์ ผลตรวจวัดได้ 70 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถในขณะมึนเมา เกิดอุบัติเหตุทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป