สอบมาราธอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 7 คนมี 15 หมายจับ ส่วนการคัดกรองอีก 112 คน ต้องใช้เวลา 2 วัน ด้านกรรมาธิการดีอีเตรียมลงพื้นที่อรัญประเทศ วัดผลมาตรการตัดเน็ต ระเบิดสะพานโจร "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

วันที่ 2 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังการส่งกลับคนไทย 119 คน หลังเจ้าหน้าที่กัมพูชาบุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22-23 ก.พ. ที่่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้มี 7 คน ที่มีหมายจับถึง 15 หมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้สวมเสื้อสีชมพูระหว่างส่งตัวข้ามแดนมายังฝั่งไทย โดยเจ้าหน้าที่แยกตัวออกจากกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไม่มีหมายจับ ส่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.30 น.เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) เพื่อสอบสวนปากคำอย่างละเอียด ที่ศูนย์ปฏิบัติการตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 7 คนไปที่อาคารสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองลึก เพื่อสอบปากต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจไซเบอร์ คาดว่า จะใช้เวลา 1-2 วัน ก่อนจะส่งตัวไปดำเนินคดี ยังพื้นที่่สถานีตำรวจที่มีหมายจับอีกครั้ง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์คัดกรองชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สโมสรมลฑลทหารบกที่ 19 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และสำนักงานประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ตำรวจภูธรภาค 2 CIB ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดำเนินการประสานงานรับตัวคนไทยที่ไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจับกุม โดยมี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีลบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และ ผบ.ศูนย์ปราบปราบทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้แทนฝ่ายไทยรับมอบตัวคนไทยดังกล่าว และมีเจ้ากรมกิจการกรมต่างด้าว กรมใหญ่ตรวจคนเข้าเมือง มท.กัมพูชา เป็นผู้แทนในการส่งมอบตัวให้กับฝั่งไทย

โดยกองกำลังบูรพาได้สนับสนุนรถบัส จำนวน 2 คัน และอำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อลำเลียงคนไทยกลุ่มดังกล่าวไปยังพื้นที่คัดกรองชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สโมสรมณฑลทหารบกที่ 19 อ.อรัญประเทศ เพื่อระบุตัว คัดกรอง ตามระบบศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ จ.สระเเก้ว (National Referral Mechanism - NRM) เพื่อนำส่งกลับภูมิลำเนาและดำเนินคดี สำหรับผู้ที่มีหมายจับ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ คอยอำนวยความสะดวกร่วมกับเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งทั้ง 119 คน จะถูกปรับรายละ 800 - 1,000 บาท ตาม พ.ร.บ. ตรวจคนเข้าเมือง

อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนการดำเนินการคัดกรองฯ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2 วัน ในระหว่างนี้คนไทยที่ถูกส่งตัวมาทั้งหมด จะพักอยู่ในพื้นที่ ของกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านที่พัก และเจ้าหน้าที่่รักษาความปลอดภัย เนื่องจากการคัดกรองต้องใช้เวลามากกว่า 1 วัน ก่อนที่จะมีการส่งตัวกลับไปยังภูมิลำเนา และดำเนินคดีสำหรับผู้ที่มีหมายจับหรือตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ (2 มี.ค.) คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายสยาม หัตสงเคราะห์ ประธาน กมธ.ดีอี จะลงพื้นที่ชายแดน เพื่อติดตามผลจากมาตรการจำกัดควบคุมสัญญาณอินเตอร์เน็ต แก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ และรับฟังผลกระทบของประชาชนในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยช่วงเวลา 12.00 น.จะมีการหารือแนวทาง อัปเดตสถานการณ์ฯ ศึกษาข้อมูลก่อนลงพื้นที่ ณ ร้านยายต๊าม อาหารเวียดนาม อ.อรัญประทศ จว.สระแก้ว เวลา 14.00 น. จะลงพื้นที่่ จุดที่ 1 หมู่บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเวลา 15.30 น. จะลงพื้นที่จุดที่ 2 ที่ตลาดเบญจวรรณ และชุมชนตลาดโรงเกลือ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว