ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เผยผล พฐ.ตรวจบ้านไฟไหม้ ไม่มีไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันได้ว่าน่าจะเป็น "จงใจวางเพลิง" ต้นเพลิงอยู่บนที่นอน เงิน 10 ล้านไฟไหม้ไม่มีจริง

วันที่ 4 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เดินทางเข้าไปยังบ้านหลังเกิดเหตุในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเป็นครั้งสุดท้าย ภายหลังจากการตรวจสอบแล้วเสร็จ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เปิดเผยว่า นับตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ ทั้งเรื่องของเหตุการณ์ไฟไหม้และเรื่องเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่อ้างว่าหายไป

เบื้องต้นตนได้เน้นย้ำให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบใน 2 ประเด็นคือ 1.เรื่องสาเหตุก่อนเกิดเพลิงไหม้ และ 2. จุดที่อ้างว่ามีการวางเงิน 10 ล้านบาทไว้

สำหรับเรื่องผลการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งจากการสอบปากคำพยานและผลตรวจพิสูจน์หลักฐานเรื่องเงิน 10 ล้านบาท น่าจะยืนยันได้แล้วว่า ไม่มีเงินจำนวนนี้อยู่ในจุดที่เกิดไฟไหม้ ส่วนกรณีของเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นไม่น่าจะเกิดจากไฟฟ้าชอร์ตหรือลัดวงจร เพราะถ้าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ตัวเต้าเสียบที่วางไว้บนที่นอนจะต้องมีความเสียหายมากกว่านี้ โดยเฉพาะในส่วนของแผงวงจรต่างๆ รวมไปถึงตัวเบรกเกอร์ที่ไม่ได้ตัดไฟอัตโนมัติด้วย จึงทำให้ยืนยันได้ว่า น่าจะเป็น “จงใจวางเพลิงทำให้เกิดไฟไหม้” แต่ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ว่าไฟไหม้ด้วยวิธีการใด แต่ตอนนี้สามารถระบุได้แล้วว่า ต้นเพลิงอยู่บริเวณ “บนที่นอน”

เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการขอศาลออกหมายจับ นางสาวนิตยา และนายฤทธิกร ซึ่งหากจับกุมตัวทั้งคู่ได้แล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลเพิ่มเติมเพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงว่ามีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนนางสาวเดียร์ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับสองข้อกล่าวหา คือเรื่องของการวางเพลิง และคดีแจ้งความเท็จดังกล่าว แต่มีส่วนเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงิน ซึ่งตอนนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนฐานความผิดเรื่องการแจ้งความเท็จ ก็จะมีการออกหมายจับนางสาวนิตย าและนายฤทธิกร เช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งคู่ได้มาแจ้งความกับตำรวจว่าเงินหายไปจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งจากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานยืนยันได้แล้วว่า เงินจำนวนนี้ไม่มีอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จ

ขณะเดียวกัน ทางตำรวจเองก็ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ควบคู่ไปกับสองคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปด้วย โดยเบื้องต้นพบว่า มีเงินนับ 1,000 บัญชี โดยนับเฉพาะแค่บัญชีที่มีการโอนเงินยอด 30,000 บาทขึ้นไป ซึ่งทั้ง 1,000 บัญชีนี้มีการโอนเงินเข้ามามายัง “บัญชีหลักบัญชีหนึ่ง” ลักษณะเป็นการรวมเงินไว้ที่บัญชีหลักนี้

หลังจากนั้น บัญชีหลักจะมีทั้งโอนเงินหมุนเวียนในระบบและกดเงินสด เงินส่วนหนึ่งจะถูกโอนเข้ามายังบัญชีของคนในครอบครัวบ้านที่เกิดเพลิงไหม้จำนวน 6 บัญชี ซึ่งในส่วนของบัญชีคนในครอบครัวบ้านหลังนี้จะกดออกมาเป็นเงินสดทั้งหมด โดยจากการตรวจสอบคนในบ้านหลังนี้ได้รับเงินจำนวนมากมาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือนแล้ว รวมเงินที่กดออกมามากกว่า 10 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมว่า ได้ทำมานานมากกว่าหนึ่งปีหรือไม่

ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ทางคนในบ้านเคยให้ปากคำว่าเจ้าของเงินคือ นายเฟิร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรังนก ทางตำรวจตรวจสอบแล้วยังไม่พบบุคคลดังกล่าว และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่