ค่ายโอนให้ 2 ล้าน! "โม" แฟนเก่าแดนเซอร์เปิดใจรับเงินพร้อมเซ็นสัญญา ห้ามพูดถึง "ลำไย-บอส" ห้ามเผยแพร่หลักฐาน

ล่าสุดวันนี้ (4 มี.ค.68) ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงติดต่อไปยัง นางสาวโม (นามสมมติ) อดีตแฟนสาวของนายบอส แดนซ์เซอร์ชายของลำไย ไหทองคำ

 

โดยวันนี้นางสาวโมได้เปิดเผยกับทางทีมข่าวทั้งหมดว่า ตนเองและนายบอสนั้นคบหากันมากว่าสามปีแล้ว โดยตลอดสามปีที่คบหากันมาก็รักกันดี ไม่เคยมีปัญหาหรือถึงขั้นเลิกรากันเลย และนายบอสเองก็มีความสามารถเรื่องของการเต้น ก่อนหน้านี้ได้ทำงานอยู่ที่สังกัดค่ายหนึ่งจนกระทั่งลำไยเปิดรับสมัครแดนซ์เซอร์ชาย และตนเองเห็นว่านายบอสมีความสามารถด้านนี้ รวมทั้งรายได้ที่มีการเปิดรับสมัครค่อนข้างดี จึงส่งข้อมูลให้นายบอสไปสมัคร หลังจากนั้นนายบอสเองก็เดินทางเข้ามาออดิชั่น จนกระทั่งผ่านและได้เข้ามาเป็นแดนซ์เซอร์ของวงดังกล่าว 

 

โดยนายบอสได้เริ่มเข้ามาเป็นแดนเซอร์ของวงดังกล่าวตอนช่วงเดือนมีนาคม 2567 ตอนนั้นทุกอย่างก็ยังดูปกติดี จนกระทั่ง เริ่มเข้าเดือนพฤษภาคม 2567 ตนเริ่มสังเกตได้ว่าพฤติกรรมของนายบอสเริ่มเปลี่ยนไป สนใจตนน้อยลงและอยู่ด้วยกันน้อยลง ทุกวันก็จะไปทัวร์คอนเสิร์ตและออกไปข้างนอกมากกว่า และเริ่มไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกกัน ซึ่งตอนนี้ก็ยอมรับว่าในตลอดระยะเวลาก็มีการทะเลาะกันบ้าง เนื่องจากก็เกิดความหึงหวงเป็นธรรมดา ทั้งเรื่องของการเต้นหรือการเล่นต่างๆ แต่ก็ไม่เคยให้กระทบถึงเรื่องงาน หลังจากนั้นนายบอสก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตนเองจึงพอจะสังเกตได้ว่านายบอสน่าจะมีผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ยังไม่ทราบว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าไม่เคยสงสัยในตัวของลำไยเลย คิดว่าน่าจะเป็นคนนอก 

 

จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงเดือนสิงหาคม 2567 มีเพื่อนที่รู้จักมาแจ้งข่าวกับตนเอง ว่าทราบมาว่านายบอสนั้นแอบคุยกันกับลำไย ซึ่งตอนนั้นตนเองก็เริ่มเอะใจ จึงไปแอบเช็ก iPad ของนายบอส และเมื่อไปเช็ก iPad ของนายบอสก็ปรากฏว่าไปพบแชตที่นายบอสคุยกับลำไย ทุกอย่างค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากมีการคุยกันในเชิง 18 + และคุยกันเชิงชู้สาว มากกว่าแค่หัวหน้ากับลูกน้อง อีกทั้งที่สำคัญตนเองยังไปเจอคลิปซึ่งเป็นคลิปที่ตั้งกล้องถ่าย

 

ตอนเห็นทุกอย่างวันนั้นยอมรับว่าช็อกมาก แต่ภาพและหลักฐานทุกอย่างชัดเจน จนแทบไม่ต้องมีคำแก้ตัว ตนเองได้พูดคุยกับนายบอส และหาข้อตกลงร่วมกัน ถามนายบอสว่า “จะเอายังไง” นายบอสเองก็ยอมจำนน และแจ้งว่านายบอสก็ออกจากงานไม่ได้ เพราะงานถือเป็นรายได้หลัก ถ้าเลือกตนเองเท่ากับว่าต้องเสียงานไปเลย จึงขอให้ตนเองอยู่ไปแบบนี้ด้วยกัน และยื่นข้อเสนอว่าจะให้เงินเดือนตนเองเดือนละ 50,000 บาท พร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ตนเองไม่โอเค 

 

ยอมรับว่าขณะที่ดูคลิปจาก iPad ของนายบอส  ตนเองได้มีการเซฟคลิปดังกล่าวไว้ และสิ่งที่ตนเองต้องการมากที่สุดคืออยากให้นายบอสและทางลำไยรวมทั้งค่ายออกมารับผิดชอบ และออกมาแจ้งเรื่องราวให้กับคนอื่นได้รู้ ไม่ได้ต้องการเงินแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครรับผิดชอบเลย ก่อนที่ตนเองจะไปพูดคุยกับทางค่าย และมีการยื่นคลิปนี้ให้กับทางค่ายดู ซึ่งทางค่ายก็พยายามขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ 

 

ทางค่ายจึงได้มีการยื่นข้อเสนอ ว่าจะให้เงินตนเองแลกกับให้เรื่องทุกอย่างจบ ซึ่งข่าวที่ออกไปว่าตนเองเรียกเงินสิบล้านนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ในตอนแรกตนเองเรียกไปแค่ห้าล้านบาท แต่ทางค่ายแจ้งว่าให้ได้สูงสุดแค่สองล้าน ตนเองจึงตกลงร่วมกัน 

 

วันที่ 9 สิงหาคม 2568  ทางค่ายดังกล่าวได้โอนเงินเข้าบัญชีของตนเองจำนวนสองล้านบาทถ้วน และได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกัน โดยใจความในสัญญาระบุว่า หากตนเองนำคลิปวิดีโอดังกล่าว หรือหลักฐานใดใดก็ตามออกมาพูดถึง หรือมาแฉ ก็จะถือว่าสัญญาเงิน 2,000,000 นั้นเป็นโมฆะ และตนเองต้องคืนเงินดังกล่าวให้กับทางค่ายทันที แต่หากตนเองรับเงินมาแล้ว ก็ให้ลบคลิปทั้งหมดที่มีอยู่ “ ซึ่งตอนนั้นตนเองได้ลบคลิปและหลักฐานทั้งหมดในโทรศัพท์ของตนเองทั้งหมด โดยทุกคนที่อยู่เป็นพยาน และคอยดูตลอดเวลาว่าตนเองได้ลบจริงหรือไม่ ทำให้ตอนนี้ตนเองไม่มีภาพหรือคลิปวิดีโอใดใดทั้งสิ้น 

 

หลังจากนั้นตนเองและนายบอสก็จบความสัมพันธ์กัน  และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ตนเองก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่ยังแอบไปคบกันอีกหรือไม่ แต่ก็จะได้ข่าวจากเพื่อนที่คอยมาแจ้ง ว่ายังเห็นทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันสองคน ทั้งใส่เสื้อคู่และถ่ายคลิปเต้นด้วยกัน แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากเนื่องจากจบความสัมพันธ์ไปแล้ว 

 

ตนเองกับนายบอสนั้นตัดความสัมพันธ์กันไปแล้ว  ไม่เคยได้พูดคุยกันอีกเลย หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ เขาจะไปคบหากับใครก็ช่าง  ในตอนแรกตนเองตั้งใจว่าหลังจากได้เงินก็จะไปเรียนที่ต่างประเทศเพื่อหนีปัญหา แต่สุดท้ายก็ไม่อยากทิ้งครอบครัวไปไหน จึงไม่ได้ไปและอยู่ที่ประเทศไทยดีกว่า 

 

ยอมรับว่าตอนนี้สภาพจิตใจก็ดีขึ้นมากแล้ว  แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ ด้วยเรื่องตอนนี้กำลังดังและเป็นกระแส จึงไม่รู้ว่าจะสามารถพูดอะไรได้บ้าง ที่จะไม่กระทบต่ออนาคต