ทีมข่าวช่อง 8 แกะรอย เจอครอบครัวนิตยา 10 ล้านทิพย์แล้ว พบรถปาเจโร่ จอดทิ้งชายแดน คาดมีคนมารับทั้งครอบครัว เดินผ่านช่องทางธรรมชาติ ข้ามไปฝั่งกัมพูชาแล้ว

ความคืบหน้าคดีออกหมายจับกุมตัว น.ส.นิตยา ตรีสุคนธ์ และนายฤทธิกร แสงสมพร สองสามีภรรยา ในข้อหาวางเพลิงเผาบ้านและแจ้งความเท็จ หลังก่อนหน้านี้เกิดเพลิงไหม้บ้านพักข้าราชการภายในกรมชลประทานที่ จ.นนทบุรี ซึ่งครอบครัว ของ น.ส.นิตยา พักอาศัยอยู่ ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความกับ สภ.รัตนาธิเบศร์ในเวลาต่อมาว่า มีเงินสดจำนวน 10 ล้านบาทถูกไฟเผาไหม้ไปด้วย

ล่าสุด ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ 5 มี.ค. 68 ทีมข่าวช่อง 8 ประจำ จ.ตราด ลงพื้นที่จุดเจอรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีน้ำตาล ล้อแม็คสีดำ กระจกติดฟิล์มดำทึบ ด้านบนติดตั้งแร็คหลังคารถ ทะเบียน ฆฐ2492 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของครอบครัว น.ส.นิตยา จอดไว้ที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด แต่ไม่พบคนในครอบครัว น.ส.นิตยา

น.ส.โสภา อายุ 45 ปี แม่ค้าที่ขายของอยู่ตรงที่จอดรถ บอกว่า เห็นรถคันนี้มาจอดตั้งแต่ช่วงบ่าย ของวันที่ 4 มี.ค. แต่ไม่แน่ใจว่ามากันกี่คน คาดว่าน่าจะมี 2-3 คน ที่ลงมาจากรถคันดังกล่าว มีผู้ชายสะพายกระเป๋าข้างใบไม่ใหญ่นัก และผู้หญิง ขณะนั้นมีคนมายืนรอ (จำไม่ได้ว่าหญิงหรือชาย) ยืนรออยู่ห่างออกไป ประมาณ 10 เมตร คาดว่าน่ามารอรับตัว แต่ไม่เห็นว่าคนกลุ่มนี้เดินไปทางไหนต่อ


คาดมีคนนำทาง พาฝ่าดงระเบิดข้ามแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่พบรถในตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็กนั้น ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ประมาณ 50 เมตร เท่านั้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ตรวจตราคนเข้า-ออกอย่างเข้มงวด

เบื้องต้นเช็กจากประวัติเข้า-ออกที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของผู้ต้องหาทั้งหมด ผ่านข้ามแดนตรงจุดนี้ สันนิษฐานว่า อาจจะจอดรถทิ้งไว้ที่ตลาด และมีคนมารับเพื่อเดินผ่านช่องทางธรรมชาติ ข้ามเขาบรรทัด ซึ่งจุดนี้เขาไม่สูงชันมากนัก สามารถเดินเท้าข้ามไปได้ แต่อันตรายมาก ต้องมีคนนำทางที่ชำนาญเส้นทาง พาไปเท่านั้น เนื่องจากบนเขามีดงระเบิด ฝังอยู่หลายลูก และเมื่อข้ามเขาบรรทัดไปได้ ก็จะถึงฝั่งประเทศกัมพูชา โดยฝั่งโน้นจะเป็นพื้นที่ราบ สามารถขับรถไปรับคนที่เดินข้ามฝั่งไปได้

ขณะเดียวกันทางตำรวจ สภ.คลองใหญ่ ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ เฝ้ารถคันดังกล่าวไว้แล้ว และได้ประสานกับ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เจ้าของคดี ให้มานำรถเคลื่อนย้ายกลับไปตรวจสอบในวันนี้ต่อไป (6 มี.ค.68)


เพจ "บิ๊กเกรียน" แฉคดี 10 ล้านทิพย์ เจอตอ

เมื่อวาน เพจบิ๊กเกรียน โพสต์ข้อความระบุว่า เจอตอเบ้อเริ่มเทิ่ม
-เส้นเงิน ที่ตรวจพบ มีเข้าเป็นพันบัญชี ปปง.เข้ามาช่วยอีกทาง
-สังคม ตั้งคำถาม เงินนาย ที่น่ารู้แล้วว่า เจ้าของบัญชีเงินก้อนใหญ่ คือใคร
ส่วน ฤทธิกร-นิตยา 2 ผัวเมีย ถูกออกหมายจับ
เวลา10โมงกว่าๆ วันที่ 2 มีนาคม 2568​ รถปาเจโร่ จอดทิ้งตลาดชายแดน จ.ตราด
ก่อนหมายจับ ออก 1 วัน มีคนพาข้ามไปช่องทางธรรมชาติ​ ด้านชายแดน จ.ตราด ทิ้งรถ ปาเจโร่ ให้ตำรวจดูต่างหน้า

และระบุอีกว่า "บิ๊กเกรียน ถาม ผู้บัญชาการภาค1 ผู้การนนทบุรี​ เคยคิดจะลงไปช่วย สภ.รัตนา​ธิเบศร์​บ้างไหมคะ #ช่วยขุดต่อเบ้อเริ่มเทิ่มด้วยค่ะ


เปิดเส้นทางครอบครัว 10 ล้านทิพย์ มุ่งหน้าชายแดน

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง 8 ได้พยายามตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของครอบครัว น.ส.นิตยา จาก จ.นนทบุรี ไปยัง จ.ตราด โดยกล้องวงจรปิดพบว่า เวลา 19.05 น. วันที่ 24 ก.พ. รถปาเจโร่ สีน้ำตาล ของครอบครัวนี้ ขับมุ่งหน้าไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา

จากนั้น เวลา 21.07 น. พบรถคันนี้ ขับเข้าไปในพื้นที่ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ผ่านสี่แยกวิหารแดง มุ่งหน้า อ.บ้านนา จ.นครนายก จากการตรวจสอบ คาดว่า ครอบครัวนี้จะแวะพัก ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก จากนั้นช่วงสาย เวลา 11.33 น. วันที่ 27 ก.พ. พบรถคันนี้ ขับวนเวียนจาก อ.บ้านนา จ.นายก ย้อนไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังจากนั้น มีการจอดพักในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. ก่อนที่จะขับมุ่งหน้าไป อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และมุ่งหน้าต่อไปยัง จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด


รพ.ให้เวลา 15 วัน ไม่มาทำงานพ้นสภาพทันที

ส่วนความคืบหน้ากรณี นายจุฬาพงศ์ (พ่อ) นางรุ้งตะวัน (แม่) และนายฤทธิกร (ลูก) เป็นเจ้าหน้าที่ ประจำของโรงพยาบาลกรมชลประทาน ซึ่งได้มีการยื่นลากิจเอาไว้ 5 วัน โดยครบกำหนดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังพบว่า ครอบครัวนี้ยังไม่มาทำงานและไม่ได้ยื่นขอล่าหยุดเพิ่ม อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้

โดยฝ่ายสื่อสารองค์กร ของโรงพยาบาลกรมชลประทาน ให้ข้อมูลว่า ฝ่ายบุคคลและฝ่ายกฎหมายของโรงพยาบาล ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว และเบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบและกฎหมายแรงงาน หากหยุดงานเกิน 15 วัน โดยไม่แจ้งเหตุผล ก็จะให้ออกจากงานทันที ซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. และจะครบกำหนดในวันที่ 15 มี.ค.นี้

 

หลวงพี่วอนครอบครัว 10 ล้านทิพย์มอบตัว

ด้านหลวงพี่แจ็ค ญาติคนเดียวของครอบครัวบ้านไฟไหม้ เปิดเผยว่า หลังจากทราบว่าตำรวจออกหมายจับแล้ว 2 คน คือนายฤทธิกรและน.ส.นิตยา เพราะตำรวจมีหลักฐานว่าทั้งคู่ร่วมกันวางเพลิง หลังตรวจสอบปลั๊กไฟ2 อัน ภายในห้องนอนไม่มีไฟฟ้าลัดวงจร/ส่วนตัวกังวลใจว่า โยมน้าทั้ง 2 คน คือ นายจุฬาพงศ์ และ นางรุ้งตะวัน ถ้ายังหนีต่อไป ก็อาจจะถูกออกหมายจับในข้อหา ฟอกเงินหรือบัญชีม้า ต่อจากนี้หรือไม่

ส่วนเส้นทางการหลบหนีตามข่าว ที่ว่าเดินทางจาก จ.นนทบุรี ไปอยุธยา /สระบุรี /นครนายก /ฉะเชิงเทราและจันทบุรี นั้น /หลวงพี่แจ็ค ยืนยันว่า ไม่ใช่บ้านญาติ /เพราะครอบครัวนี้มีญาติอยู่ในกรุงเทพฯและนนทบุรีทั้งหมด /ดังนั้นหากจะหลบหนีเข้าประเทศกัมพูชาก็อันตราย ตนเองในฐานะญาติ อยากให้ทั้งหมดเข้ามอบตัวและออกมาพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ในครอบครัวจะถูกออกหมายจับและโดนจับทั้งหมด


ฝากญาติคนอื่นๆช่วยรับหมาไปดูแล

ส่วนเรื่องหมา ที่ครอบครัวนี้เอาไปฝากเลี้ยงที่โรงแรมสัตว์ และจะครบกำหนดในวันที่ 8 มี.ค.นี้ /หลวงพี่แจ็ค บอกว่า ตนเองเป็นพระ บวชอยู่วัด คงเป็นไปไม่ได้ที่เอาหมามาเลี้ยง จึงอยากฝากถึงญาติคนอื่นๆ ที่ยังไม่กล้าปรากฏตัว หากได้ดูข่าว ก็อยากไหว้วานให้ไปรับหมาไปดูแลด้วย

 

โรงแรมหมาเผย อาหาร "ตี๋น้อย" ใกล้หมด

ส่วนที่โรงแรมหมา ถนนบางพลับ-อ้อมเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่ครอบครัวของนิตยา นำเจ้า “ ตี๋น้อย” หมาสุดรักของครอบครัวไปฝากเลี้ยงไว้ ระหว่างวันที่ 24 ก.พ.-8 มี.ค.นั้น ทางพนักงานของ โรงแรมหมา บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนดที่ทางเจ้าของหมาจ่ายเงินและฝากเลี้ยงไว้ ก่อนหน้านี้ที่มีการส่งภาพ "ตี๋น้อย" เพื่ออัพเดทว่า สุขภาพยังปกติดี โดยก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวของ น.ส.นิตยา มีการอ่านข้อความไลน์ แต่ไม่ได้ตอบกลับ ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ก็แจ้งไปว่า "อาหารใกล้หมดแล้ว" ก็ยังมีการอ่านข้อความ แต่ไม่มีการตอบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากครบวันที่ 8 มี.ค.แล้ว ยังไม่มีใครมารับ "ตี๋น้อย" ในวันรุ่งขึ้น ทางโรงแรมหมาจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ชัยพฤกษ์ จากนั้นจะตัดสินใจอีกครั้งว่า จะรับ "ตี๋น้อย" ไว้ดูแลเอง หรือ ประสานญาติๆของครอบครัวนี้ หรือหาบ้านให้กับน้องต่อไป