เฒ่าหึงโหด ชักปืนรัว 14 นัดยิงหญิงลาว ดับสยองคาร้านคาราโอเกะ รับไม่ได้โดนบอกเลิก
วันที่ 13 มีนาคม 2568 มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุพัฒน์ ทองเขียว รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขาชัยสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบที่ร้านคาราโอเกะ ริมถนนเอเซียฝั่งขาล่องท้องที่หมู่ 12 ตำบลเขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
ภายในห้องนอนด้านหลังของร้านเจ้าหน้าที่พบศพนางสาวบิวลิ หรือปูเป้ หญิงชาวลาวอายุ 42 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัวและศรีษะนับได้ 14 แผล ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ได้จำนวน 8 ปลอก กระสุนปืน .38 ที่ยังไม่ใช้งานจำนวน 1 หัว และยังเก็บหัวกระสุนปืนได้จำนวน 5 หัว ส่วนที่โต๊ะรับแขกภายในร้าน ซึ่งอยู่ติดประตูทางเข้ามีแก้วเบียร์อยู่จำนวน 2 ใบ ขวดเบียร์จำนวน 1 ขวด มีเบียร์เหลืออยู่ในขวดเกือบครึ่ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบภาพกล้องวงจรปิดในภายในร้านบันทึกภาพคนก่อเหตุคือนายทวี อายุ 63 ปี หลังใช้อาวุธปืนยิงนางสาวปูเป้จนเสียชีวิตแล้วถือปืนเดินออกจากร้านหลบหนีไป
สอดคล้องกับที่นายนิยม อายุ 59 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นสามีของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเขาได้ขับรถยนต์มาส่งปูเป้ทำงานที่ร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ ก่อนจะขับรถกลับบ้านและรอมารับนางสาวปูเป้ หลังเที่ยงคืนเหมือนเช่นที่ทุกคืนผ่านมา นายนิยมบอกด้วยว่าเขาคบหากับปูเป้นานประมาณ 6 เดือน และเช่าบ้านอยู่ด้วยกันในพื้นที่ อ บางแก้ว ไม่คิดว่าแฟนสาวจะมาถูกยิงเสียชีวิต
ในขณะที่เพื่อนบ้านบอกว่า ปูเป้ นอกเหนือจากนายนิยมแล้ว ปูเป้ ยังคบหาอยู่กับนายทวี คนก่อเหตุอีกด้วย และนายทวีจะเป็นคนให้เงินปูเป้ใช้ตลอด ทั้งเคยมานั่งร้องเพลงกันที่ร้านก็บ่อยครั้งแต่ประมาณ 4-5 วันที่ผ่านมา จะได้ยินปูเป้โทร. ทะเลาะกับนายทวีบ่อยครั้ง เหมือนปูเป้จะขอเลิกแต่ฝ่ายชายไม่เลิก ก่อนเกิดเหตุหลังนายนิยมมาส่งปูเป้ที่ร้าน หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงนายทวีก็ขับรถกระบะตอนเดียวมาจอดหน้าร้าน
เมื่อปูเป้เห็นรถนายทวี เธอก็วิ่งหลบไปอยู่ในห้องนอนหลังร้าน ก่อนที่นายทวีจะเข้ามาในร้านพร้อมสั่งเบียร์มาดื่ม 1 ขวด โดยนั่งที่โต๊ะข้างประตูทางเข้าและมีนางแมว อายุ 48 ปี เจ้าของร้าน และพนักงานในร้านอีก 2 คนไปนั่งร่วมที่โต๊ะด้วย ขณะนั่งที่โต๊ะนายทวีส่งเสียงเรียกปูเป้ให้ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ปูเป้ไม่ยอมเปิดประตูห้องออกมา ด้วยความโมโหนายทวีจึงชักอาวุธปืนแล้วเดินไปยิงประตูห้องปูเป้จนหมดแม็ก พนักงานในร้านแตกกระเจิงก่อนจะเทปลอกกระสุนและใส่กระสุนไปใหม่
หลังจากนั้นนายทวีได้ปีนเข้าไปในห้องของปูเป้ ซึ่งพนักงานในร้านได้ยินเสียงปูเป้ บอกอย่ายิง น้องยอมแล้ว สิ้นเสียงปูเป้ก็ได้ยินเสียงปืนนั้นอีกหลายนัด หลังเสียงปืนสงบลงนายทวีก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องและผ่านออกไปทางหน้าร้านขับหลบกระบะหลบหนีไป
ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมหึงหวง ก่อนจะเร่งตามตัวนายทวีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป