"ปานเทพ" ยังพบพิรุธอื้อในคดี "แตงโม" เชื่อรอยบาดแผลหลังตรวจสอบ จะพิสูจน์ได้ว่าใครโกหก
เวลา 14.10 น. อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้ขึ้นเวทีเปิดเผยถึง ความจริงมีหนึ่งเดียว ปริศนาแตงโม เรียกร้องความยุติธรรม เพื่อระบบความยุติธรรมไทย ว่า ในเรื่องคดีของแตงโมนิดานั้น ยังคงพบพิรุธมากมาย และบาดแผลที่ยังต้องหาคำตอบ รวมถึงเรื่องไทม์ไลน์เวลาที่บางข้อมูลยังไม่ยืนยันแต่บางข้อมูลสามารถยืนยันได้ว่าในห้วงเวลานั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สำหรับข้อสงสัยในเรื่องของร่างคุณแตงโมนั้น ยังมีข้อสงสัยในเรื่องของบาดแผลที่ต้นขาขวาด้านใน แผลข้อพับบริเวณเข่าขวา และบริเวณเข่าซ้าย ใบหน้ากับลำตัวและเศษใบไม้ด้านหลังที่ติดกับลำตัว ซึ่งต้องใช้ข้อพิสูจน์จากภาพถ่ายต้นฉบับ คนเลเซอร์สแกนใต้น้ำ ว่ามีวัตถุใดอยู่บริเวณเบื้องล่างหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบคาดว่าสันนิษฐานได้ว่ามีใครบางคนที่กำลังโกหก
อ.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ได้เปิดเผยว่า ในเรื่องคดีแตงโมนิดา เป็นคดีที่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่กลับถูกทำให้ซับซ้อน แต่มันกลับถูกติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ทำให้พยานหลักฐานที่ควรจะได้ตั้งแต่แรกไม่ครบถ้วน ทำให้กลายเป็นภาระที่หนักกว่าเดิมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอชุดนี้ รวมถึงตนด้วยที่ให้ให้คำปรึกษาและแนะนำคดี ในฐานะที่ปรึกษาของดีเอสไอ ซึ่งตอนนี้ตนได้ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวน รวมแล้วประมาณ 6 ประเทศ ซึ่งตอนนี้ได้รับการคอนเฟิร์มมาแล้วด้วย ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศยืนยัน 2 จาก 6 ประเทศแล้ว ว่าแผลที่เกิดขึ้นบริเวณขาของแตงโม ไม่ใช่แผลจากใบพัด และไม่ได้ตกเรือ ซึ่งตอนนี้ได้เจ้าหน้าที่ FBI เข้ามาทำงานร่วมกับ DSI โดยจะเริ่มการสืบสวนสอบสวนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 17 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ อ.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ได้เปิดเผยพิรุธที่สังคมตั้งข้อสงสัย กรณีเสียงชีวิตของแตงโมนิดา อาทิ ลักษณะของบาดแผล และยังมีเรื่องของการ ประวิงเวลาที่มาจากความเป็นเพื่อน ประเด็นปัสสาวะ เป็นไปไม่ได้ ประเด็นเรื่องข้อมูล GPS เรือ ประเด็นเรื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโม รวมถึงเรื่องของเหตุการณ์ ที่ผ่านไป 3 ปีจำเหตุการณ์ได้ดี และยังมีในเรื่องของบุคลิกภาพและการแสดงออก เพื่อนคุณเสียชีวิต ต้องแสดงออกแบบใด อารมณ์หลังเหตุการณ์ ต้องร้องไห้หรือไม่
โดยอาจารย์ตินินยังบอกทิ้งท้ายไว้ว่าคดีนี้ไม่ควรจะคงค้างมาถึง 3 ปีควรจะหาผู้กระทำความผิดได้แล้ว ส่วนข้อสงสัยของประชาชนควรจะได้รับคำตอบด้วยเช่นกัน แต่ในขณะนี้ต้องรอการรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆที่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์เนื่องจากไม่สามารถนำข้อมูลจากสำนวนเก่ามาใช้ได้ นอกจากนี้จากการที่ตนได้ถูกเชิญเป็นที่ปรึกษาของดีเอสไอ พบว่าพยานที่ถูกเชิญเข้ามามีทั้งบุคคลที่ติและพบสิ่งผิดปกติอยู่บางคน ซึ่งมักพูดในสิ่งโกหกและเรื่องราวที่ไม่จริง ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญร่วมกันในการวิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพื่อความโปร่งใสนอกจากตนที่ได้ทำการวิเคราะห์ยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมวิเคราะห์ ถอดรหัสภาษากายซึ่งในเร็ววันนี้จะได้รับคำตอบในข้อมูลส่วนนี้
อีกทั้งในคดีนี้ยังพบกลุ่มคนบางกลุ่มที่เป็นเงาอยู่เบื้องหลังมาคอยควบคุม อย่างตนก็เคยถูกสั่งห้ามให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโมผ่านทางต้นสังกัดที่ทำงาน ได้ยืนยันว่าตนไม่เกรงกลัวอำนาจมืดเหล่านี้และจะหาความยุติธรรมคืนให้กับคดีแตงโม