ผู้การฯ สุรินทร์ แถลงยืนยันตำรวจใส่กุญแจมือหนุ่มจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ พาไปเป่าแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามยุทธวิธี เจ้าตัวมีกลิ่นสุรา พูดจาไม่ปกติ พยายามขัดขืนด้วยการนั่ง เชิญไปเป่าก็ไม่ไป

วันที่ 17 มี.ค. 2568 จากกรณี ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิด พร้อมระบุข้อความว่า “กล้องจากหน้าร้านเซเว่นตรงธนาคารกสิกรไทยเทศบาลเมืองสุรินทร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมเวลาประมาณ 03.00 น. น้องผู้เสียหายกลับจากสังสรรค์กำลังจะกลับบ้าน จอดแวะที่หน้าร้านเซเว่นเพื่อจะลงไปซื้อบุหรี่แต่ขณะนั้นน้องไม่รู้ว่าตรงหน้าร้านเมย์มีการตั้งด่านตรวจ เนื่องจากไม่มีกรวยสัญญาณไฟให้เห็นน้องลงจากรถเพื่อจะเข้าไปในร้านเซเว่นจากนั้นมีนายตำรวจเข้ามาควบคุมตัวลากตัวใส่กุญแจมือน้องลากไปที่ด่านตรวจโดยที่น้องเขาไม่ได้ขัดขืน น้องถามว่าผมทำอะไรผิดนายตำรวจ 2 นายไม่ฟังพากันใช้กำลังลากน้องไปที่ด่านจับน้องไปเป่าแอลกอฮอล์ซึ่งน้องก็ดื่มมาจริงและผลตรวจก็เกินค่าตามที่กฎหมายกำหนดแต่ถามว่าพฤติการณ์เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่น้องไม่ได้ขับฝ่าด่านหลบหนีน้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีด่านตรวจการใช้อำนาจตามกฎหมายใช้ได้กันขนาดนี้หรือไม่น้องกระทำผิดซึ่งหน้าหรืออย่างไรพฤติการณ์การจับกุมเช่นนี้ถือว่าเป็นการให้เกียรติศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่การบังคับใช้กฎหมายควรบังคับใช้ให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจไม่ใช่บังคับใช้กฎหมายเพื่อหวังผลประโยชน์เรื่องนี้คงต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของน้องและขออย่าให้เป็นเยี่ยงอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้อีกต่อไป”

โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.20 นาที บันทึกภาพขณะรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนทอง ขับรถมาจอดอยู่ที่ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อในเมืองสุรินทร์ ก่อนที่คนขับรถจะเดินลงมาและเข้าร้านสะดวกซื้อ ในกล้องเห็นว่าจังหวะที่คนขับรถเดินลงมา ได้มีตำรวจ 1 นาย เดินเข้ามาหา พร้อมกับฉุดเจ้าของรถจนล้มลงไปกับพื้น และได้มีตำรวจอีก 1 นาย เดินเข้ามาสมทบก่อนจะดึงตัวไปเป่าแอลกอฮอลล์ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลง Facebook ชาวเน็ตต่างแห่มาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของตำรวจว่าเหมาะสมหรือไม่

ล่าสุด วันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว การที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ กวดขันวินัยจราจร หรือกวดขันเรื่องคนดื่มเครื่องดองของเมา เป็นไปตามหลักที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด มีป้ายไฟ ป้ายสามเหลี่ยม วางกรวยบอกกำหนดขั้นตอนในการดำเนินการ มีการแบ่งหน้าที่การตั้งจุดตรวจ ประกอบด้วย จุดคัดกรอง ก่อนถึงจุดปฏิบัติ และมีส่วนระวังหลัง ซึ่งเวลาดังกล่าวเป็นจุดปฏิบัติประจำของตำรวจอยู่แล้วในการกวดขันในเรื่องของการดื่มสุราและขับขี่ ซึ่งในพื้นที่ก็เคยเกิดเหตุคนดื่มสุรายังฝ่าฝืนขับรถและไปชนผู้ที่ปั่นจักรยานออกกำลงกายเสียชีวิตในช่วงเช้ามืด

จากการดูกล้องของตำรวจสายตรวจ พบว่า ไม่ได้ใช้กำลังอะไรมากมาย เมื่อสั่งให้ไปแล้วไม่ไป ก็มีความจำเป็นด้วยเหตุและพฤติการณ์ต้องมีการควบคุม การควบคุมปกติ การใส่กุญแจมือก็ต้องใส่ทั้งสองข้าง แต่รายนี้ตำรวจใส่แค่ข้างเดียว เขาก็ยอมเดินไปกับตำรวจ อาจจะเป๋นิดนึง ตอนแรกนั่ง ดูจากกล้องได้ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ที่เกิดเหตุตีสามแล้ว เป็นเวลาที่บุคคลทั่วไปพักผ่อนกันแล้ว แต่ยังออกมาซื้อบุหรี่หรืออะไรไม่ทราบ โดยจุดเกิดเหตุห่างจากด่านแค่ 10 เมตร เท่านั้น แต่หลักการตั้งจุดตรวจกี่เมตรก็ได้

ส่วนการคัดกรองจะอยู่ก่อนจุดตรวจ คือคัดก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปตรวจใครก็ได้ ต้องคัดกรอง มีพฤติการณ์ว่าดื่มมา ตำรวจถึงจะให้เป่า ทำไมตำรวจให้ลดกระจกแล้วทำไมต้องชวนคุยกับคนที่ขับรถผ่านจุดตรวจต่างๆ แต่เป็นกุศโลบายให้คนที่ขับรถมาเขาตอบ เพื่อให้ทราบว่ามึนเมามาหรือไม่ ทั้งหน้าแดง กลิ่นละมุดออก พอพูดก็จะส่งกลิ่นออกมา

การตั้งจุดตรวจ ทางตำรวจจราจรก็มีการลงระบบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดเรียบร้อย ส่วนการลงเฟชบุ๊คของท่านนึง ระบุว่า ไม่รู้ว่าจุดตรงหน้าร้านซึ่งเป็นจุดที่ตั้งด่าน มีการตังด่านตรวจ ภาพที่เขามาแนบ ภาพมันฟ้องอยู่แล้วว่ามีป้ายสามเหลี่ยม กรวยไฟสามเหลี่ยม แต่เขียนว่า เนื่องจากไม่มีกรวยสัญญาณไฟให้เห็น แต่ข้อเท็จจริงก็เห็นชัดๆ คนที่ขับขี่มาเห็นไฟ แล้วจอดลงไปซื้อบุหรี่ห่างแค่ 10 เมตร ความห่างห้องคูหาประมาณห้องครึ่งเท่านั้น พอตำรวจเดินไปสอบถามก็มีกลิ่นสุรา พูดจาลักษณะไม่ปกติ มีกลิ่นแอลกอฮอล์ เสียงพูดบ่งบอกได้ชัด มีพฤติการณ์ว่าดื่มแอลกอฮอล์มาแน่นอน พยายามขัดขืนด้วยการนั่ง ตำรวจเชิญไปเป่าก็ไม่ไป จึงต้องใช้อำนาจในการควบคุมใส่กุญแจมือไปข้างนึง เพื่อให้ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ ภาพปรากฏชัดเจนไม่ได้ฉุดกระชากลากไปแต่อย่างใด เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีอยู่แล้ว

ขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่ให้ความสนใจ ซึ่งต้องยอมรับว่า เรื่องนี้มีอยู่สองด้าน ทั้งไม่เข้าใจการปฏิบัติหนาที่ของตำรวจ และเข้าใจเห็นใจตำรวจ ฝากให้ประชาชนทราบและเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วย ล้วนทำเพื่อความปกติสุขของสังคมและประชาชน