ผู้การฯ ตรัง เผยกล้องบอดี้แคม จยย.ซิ่งหลบด่าน คนซ้อนตายมีรอยถูกจับใส่กุญแจมือ ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ใส่กุญแจมือคนซ้อนที่กระเด็นไปไกลก่อนป้องกันหลบหนี แล้วมาควบคุมตัวคนขี่ จากนั้นจึงเรียกกู้ภัยมาช่วย
วันที่ 19 มี.ค. 2568 กรณีวัยรุ่นขี่ถจักรยานยนต์หลบหนีด่านตรวจในจังหวัดตรัง เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) จนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้คนซ้อนท้ายเสียชีวิต 1 ราย คนขับขี่บาดเจ็บสาหัส พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและกล้อง Body Cam ของเจ้าหน้าที่ พบว่า อุบัติเหตุเกิดจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักในช่วงทางโค้งขณะมีรถสวนมา ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนพบว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตรัง ตั้งจุดตรวจบริเวณถนนต้นปริง-แยกหนองตรุด ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ได้พบรถจักรยานยนต์ทะเบียนชลบุรี พยายามกลับรถหลบเลี่ยงจุดตรวจ ทำให้ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยมีระยะห่างระหว่างผู้หลบหนีและเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 เมตร จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง บริเวณหมู่ 4 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง มีรถยนต์ขับสวนมา ทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลงไปเอง
อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ นายธีระพงษ์ อายุ 30 ปี ผู้ซ้อนท้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นของแพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง พบรอยช้ำที่บริเวณตา คาดว่าเกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรงจนคอหัก ส่วนนายธนกฤต อายุ 19 ปี ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลตรัง
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ บอกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางที่หลบหนีและกล้อง Body Cam ประจำตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตาม พบว่าเหตุที่เกิดนั้นเกิดจากตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่หลบหนีไม่ยอมเข้าด่านตรวจ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบประวัตินายธนกฤต พบว่าเป็นบุคคลที่เคยต้องโทษคดีอาญามาแล้วในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และตรวจพบฉี่ม่วง มีสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีก็ขาดการต่อภาษีประจำปีและไม่มีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ
สำหรับเหตุการณ์ที่มีการใช้กุญแจมือพันธนาการผู้เสียชีวิต พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปเพียงคนเดียว และเมื่อเห็นรถจักรยานยนต์ล้ม ได้เข้าควบคุมตัวผู้ที่กระเด็นไปไกลกว่า ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้สังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมีสติอยู่หรือไม่ จึงใช้กุญแจมือควบคุมไว้ก่อน จะรีบกลับมาควบคุมตัวผู้ขับขี่ซึ่งอยู่อีกจุดหนึ่ง โดยไม่ได้ใส่กุญแจมือ เนื่องจากมีกุญแจมืออยู่เพียงคู่เดียว เจ้าหน้าที่ได้รีบแจ้งเหตุเรียกกำลังสนับสนุนพร้อมแจ้งหน่วยกู้ภัยให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ด้านญาติของผู้เสียชีวิตยังคงติดใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมครั้งนี้ ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และเปิดเผยว่าจะมีการตรวจสอบกรมธรรม์ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว หากมีก็จะดำเนินการให้ผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิ์ตามระเบียบกฎหมายต่อไป
สำหรับนายธนกฤต ผู้ขับขี่ ได้ถูกแจ้งข้อหาหลายข้อหา อาทิ ขับรถขณะเสพสารเสพติด ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และยังมีข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วนนายธีระพงษ์ ผู้เสียชีวิต ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถสิบล้อให้กับบริษัทขนส่งในพื้นที่ มีบุตรชาย 1 คน อายุ 8 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ ยังบอกอีกว่า "ส่วนคนที่นั่งซ้อนท้าย ไม่ได้มีการกระทำความผิดใดเลย แต่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของผู้ขับขี่ ซึ่งตนเองขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย คือจริงๆแล้วถ้าผู้ขับขี่ไม่หลบหนีจุดตรวจเหตุดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น"
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "อยากวิงวอนพี่น้องประชาชนให้เข้าใจการทำงานของตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย คนดีจะอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ หากประชาชนไม่ได้ทำความผิดอะไร ก็ไม่ต้องกังวลเมื่อพบจุดตรวจ"