มูลนิธิรณรงค์ จ่อสอบ ประธานมูลนิธิสาวคนดัง นั่งที่ปรึกษากรรมาธิการ ทั้งที่มีประวัติอาชญากรรม แต่คนแต่งตั้งกลับตรวจสอบไม่พบ?

ความคืบหน้ากรณีที่ ซ้อลักษณ์-น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง กรณีถูกฉ้อโกง ถูกหลอกให้ซื้อวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก และเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสกลนคร พร้อมทนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ก่อนหน้านี้


นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งได้ติดตามคดีนี้อยู่ตลอด และมีหลายคดีต่อเนื่อง คดีแรกคือคดีซื้อขายวุฒิการศึกษาที่ จ.สกลนคร ซึ่งตำรวจสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เหลือสรุปสำนวนส่งอัยการ คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้




คดีต่อมา เป็นคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงลายเซ็น ซึ่งแต่เดิมอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่ปัจจุบันเป็นการดำเนินการของ สภ.บางบัวทอง คดีนี้มีความแปลกประหลาดและทำงานล่าช้า จากการที่ทีมงานไปติดตามความคืบหน้าที่ สภ.บางบัวทอง พบว่า ตำรวจขอเอกสารตัวจริงของการจัดตั้งจดทะเบียนมูลนิธิไป แต่เอกสารที่ได้มาจริงกลับเป็นฉบับสำเนา


ซึ่งจากนี้จะติดตามต่อว่าเอกสารตัวจริงอยู่ที่ไหน ยังอยู่หรือไม่ หรือว่าล่องหนได้ คดีนี้ล่าช้ามาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ทราบว่าจะกลัวอะไรหนักหนากับการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนคนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อน




ส่วนกรณีการแต่งตั้ง ประธานมูลนิธิสาวคนดังกล่าว เป็นคณะทำงานที่ปรึกษาและสนับสนุนการดำเนินงานของประธานคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณวุฒิสภา และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมาธิการ แล้วมีการเปิดเผยว่าไม่พบประวัติอาชญากรรม ในฐานะมูลนิธิฯ จะยื่นตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน


ทางด้าน ซ้อลักษณ์ เผยว่า ตนเองเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่คิดว่าเรื่องใหญ่และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนขนาดนี้ เอกสารสำคัญจะหายไป แล้วถ้าเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร เขาจะอยู่อย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลคืออยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงประโยชน์สาธารณะมากกว่า