ศพทิพย์! หนุ่มวัย 18 จัดงานศพแม่ ครู-เพื่อนมอบเงินช่วยเหลือ แต่ครูเอะใจโทรถามผู้ใหญ่บ้าน บุกเปิดฝาโลง อึ้ง! เจอแต่ต้นกล้วย อ้างสะเดาะเคราะห์ให้แม่

วันที่ 25 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายศรีสวัสดิ์ โพธิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านศรีวัฒนาหมู่ 8 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แจ้งว่ามีเรื่องราวแปลกๆ ภายในหมู่บ้าน เมื่อมีหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่ง จัดงานศพของแม่ตนเองที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน เหมือนมีคนตายจริงๆ มีการนำโลงศพสีขาว มีผ้าขาวม้าพาดโลงศพ มีไฟประดับโลงศพ และมีคนที่มาร่วมงานศพแต่งชุดดำ แต่ที่แปลกใจคือชาวบ้านไม่รู้เลยว่ามีคนตายในหมู่บ้าน

เรื่องนี้นายศรีสวัสดิ์ โพธิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากคุณครูท่านหนึ่งที่โรงเรียนบ้านดุงวิทยา โทรมาสอบถามว่า ในหมู่บ้านมีงานศพไหม มีลูกศิษย์ชื่อน้องไอซ์ เรียนอยู่ชั้น ม.6 แจ้งว่าแม่เสียชีวิตที่กรุงเทพฯ นำศพมาทำพิธีจัดงานศพที่บ้าน ทางครูเลยโทรมาสอบถามว่าผู้ใหญ่บ้านรู้เรื่องไหม ตนก็แปลกใจ เพราะไม่มีใครแจ้งตนเลย

ทางครูก็บอกอีกว่า ทางคณะครูและนักเรียนได้รวบรวมเงินไปให้ที่งานศพ ก็เห็นโลงศพอยู่บนบ้าน ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านก็เลยพากันไปพิสูจน์ว่ามีงานศพจริงไหม พอไปถึงก็พบน้องไอซ์ ตาและยายใส่ชุดดำอยู่หน้าโลงศพ ก็เลยถามว่า มีใครตายหรือ นายไอซ์ก็บอกว่าไม่มีใครตายหรือเสียชีวิต เขาก็อ้างอีกว่า จับสลากแก้ มส. ได้เรื่องประเพณีอีสาน เลยทำเรื่องงานศพเพื่อส่งครู และต้องการถ่ายคอนเทนต์เพื่อส่งครู แต่โทรไปสอบถามครู ครูก็บอกว่าไม่ได้สั่งให้ทำ หรือแก้ มส. แต่อย่างใด แล้วก็โยนความผิดให้เพื่อนว่า เพื่อนถ่ายรูปงานศพไปให้ครู

ตนก็ถามอีกว่า สรุปแล้วมีโลงศพไหม น้องไอซ์ก็บอกว่า มีอยู่ข้างบนบ้าน ตนก็เอะใจ ทำไมจัดงานศพไม่เอาไว้ข้างล่าง ทำไมเอาไว้บนบ้าน เขาก็บอกอีกว่ากลัวคนเห็น ตนเลยบุกขึ้นไปพิสูจน์บนบ้าน ก็เห็นโลงศพสีขาวจริงๆ มีผ้าขาวม้าพาดโลงศพ มีกระถางธูป เทียน ไฟประดับโลงศพ เหมือนโลงศพคนตายจริงๆ ก็ถามยายว่าขอเปิดโลงศพได้ไหม ยายของน้องไอซ์ก็บอกว่า เปิดได้ ไม่มีระเบิดหรอก พอเปิดออกดูแทบช็อก เพราะในโลงศพเป็นต้นกล้วยตัดเป็นท่อนๆ ห่อด้วยผ้าขาว ถามน้องไอซ์ย้ำๆ ว่าทำไมทำแบบนี้ เขาก็เลยบอกว่า เห็นแม่ดวงไม่ดี ก็เลยจัดงานศพแก้เคล็ดให้แม่ และต้องการหาเงินไปเรียนต่อหลังจากจะจบ ม.6 ตนก็เห็นใจน้องเขานะ หากต้องการเงินไปเรียนต่อ

แต่พอวันอาทิตย์ช่วงตี 1-2 น้องและยายเอาโลงศพไปเผาที่ทุ่งนา แต่มีการนำภาพไปโพสต์และต่อว่าชาวบ้านไม่สนใจครอบครัวเขา มีข้อความว่า "สุดท้ายชีวิตคนเฮาก็แค่นี้ ขอบคุณที่ให้ไอซ์เกิดมา ไปดีถึงสุขเด้อแม่ ซุมไทบ้านกะบ่เห็นใจเฮาคักแหน่" และมีอีกข้อความว่า "การที่เราตั้งศพไว้บนบ้าน จัดงานศพไว้บนบ้าน ไม่มีการเลี้ยงอาหาร มันผิดมากเลยหรอ ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่สุญเสียแม่ และไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะจัดงานศพแม่ ผมก็ทำแบบนี้ที่ผมไม่เสียเงินมาก เพราะว่าเงินผมก็ต้องเอาไปใช้มหาวิทยาลัยเหมือนกัน ถ้าผมใช้เงินส่วนนั้นในงานศพหมด แล้วจะให้ผมเอาเงินที่ไหนไปใช้ในมหาวิทยาลัย กำหนดเผาแม่วันจันทร์ แต่พวกคุณบอกต้องเผาในคืนนี้ไม่งั้นชาวบ้านจะเดือดร้อน....."

พอเห็นข้อความที่น้องเขาโพสต์ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ จึงเรียกตาและยายมาคุยกัน และให้เอาโลงไปเผาคืนวันอาทิตย์เลย และไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้อีก จริงๆ แล้วอยากคุยกับน้องไอซ์ แต่ทราบว่าเขาไม่มาคุยตอนนี้ หนีไปบวชที่ อ.กู่แก้ว ตนและชาวบ้านมองว่า ตายายและตัวน้องไอซ์ทำไม่ถูกต้อง ผิดประเพณีหมู่บ้าน ไม่มีคนตายมาทำแบบนี้ได้อย่างไร

ขณะที่ ชาวบ้านหลายคนบอกว่า เรื่องนี้น้องทำไม่เหมาะ ไม่มีคนตายจะทำงานศพเหมือนมีคนตายได้อย่างไร ชาวบ้านรับไม่ได้ เด็กแค่ 18 ปีมาทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เห็นว่าเด็กชอบเรื่องไสยศาสตร์และชอบทำตัวเป็นร่างทรงด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ก็พบมีร่องรอยเผาโลงศพจริงจนดำเป็นขี้เถ้า และมีรอยต้นกล้วยไหม้อยู่ด้วย

ด้านนางเดือนดี อายุ 74 ปี ยายของน้องไอซ์ บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจัดงานศพจริง แต่เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา เพราะยายและน้องไอซ์หลานชายไปทำบุญแล้วหมอทักบอกว่า แม่ของน้องไอซ์มีเคราะห์ ต้องจัดงานศพให้ แต่ไม่มีใครตายจริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากจะขอโทษชาวบ้านที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่ที่เราทำไปเพื่อแก้เคล็ดให้กับแม่น้องไอซ์เท่านั้น โดยคุณยายพูดไปแขนก็สั่นไป บอกว่าไม่รู้แขนเป็นอะไรแขนจะสั่นแบบนี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้เจตนาของตา ยาย และน้องไอซ์ อ้างว่าจัดงานศพเป็นการอุปโลกน์หรือแก้เคล็ดให้กับแม่น้องไอซ์ แต่ชาวบ้านบอกว่าทำแบบนี้ไม่สบายใจ เพราะผิดฮีต (ตารีต) ประเพณีของหมู่บ้านอย่างชัดเจน มีที่ไหนคนไม่ตายแต่จัดงานศพเหมือนคนตายจริงๆ และชาวบ้านก็ไม่รู้เรื่องเลย