พี่เขยโหดกราบขมาศพ ขณะที่สาวประเภทสองซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้ตาย ปฏิเสธร่วมทำแผน ด้าน ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก

วันที่ 26 มี.ค. 2568 จากเหตุสะเทือนขวัญนายณัฐวุฒิ อายุ 36 ปี ใช้อาวุธปืนยิงนายจักรินทร์ อายุ 28 ปี จนเสียชีวิต จากปมเหตุขัดแย้งเรื่องรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ในท้องที่ สภ.เมืองนครราชสีมา โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ หรือพนิตพิชา อายุ 33 ปี สาวประเภทสอง ชาว ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้เสียชีวิต ร่วมกันนำร่างผู้เสียชีวิตไปฝังดินอำพรางไว้ในป่า ในพื้นที่ดูแลของกองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา นานกว่า 3 เดือน แต่สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้เมื่อกลางดึกวานนี้ (25 มีนาคม) โดยให้การรับสารภาพว่ากระทำจริง เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปชี้จุดที่ฝังร่างผู้เสียชีวิต

ล่าสุด ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ไปดูการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ หลังจากอาสากู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา ได้ช่วยกันขุดร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 3 ตรวจสอบ ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำตัวนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนนายณรงค์ศักดิ์ พี่ชายผู้ตายที่ร่วมกันฆ่า ไม่ประสงค์จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องฆ่าน้องของภรรยา เพราะโกรธและบันดาลโทสะที่นายจักรินทร์นำรถจักรยานยนต์ของตนเองที่เพิ่งจะเปลี่ยนล้อแม็กใหม่ๆ ไปขาย หลังจากนั้น นายณัฐวุฒิได้ก้มกราบขอขมาศพนายจักรินทร์ โดยมีหลานสาวนายจักรินทร์ตะโกนเสียงดังว่า "ไม่มีวันที่จะให้อภัย มึงต้องรับกรรมที่ก่อเอาไว้" ตำรวจจึงรีบนำตัวนายณัฐวุฒิไปขึ้นรถ เพราะเกรงจะถูกญาติผู้ตายรุมประชาทัณฑ์

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 พี่ชายคนที่ 2 ของผู้เสียชีวิตได้มาแจ้งความที่ สภ.เมือง ว่าผู้เสียชีวิตได้หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2567 และระบุว่า ก่อนจะหายไปได้มาพบกับนายณรงค์ศักดิ์ สาวประเภทสอง ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของผู้เสียชีวิต และพบกับนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแฟนของนายณรงค์ศักดิ์ ที่บ้านพักใน ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา แล้วติดต่อไม่ได้ ทางพนักงานสอบสวนหลังจากรับแจ้งก็ได้สืบสวนติดตาม จนมาทราบว่า หลังจากผู้เสียชีวิตมาพบผู้ต้องหาทั้งสองที่บ้านพักแล้ว ได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนมีการใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้ขยายผลสอบพยานแวดล้อมและประจักษ์พยานต่างๆ จนได้ขออนุมัติหมายจับนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 โดยแจ้งข้อหาเบื้องต้น ร่วมกันพยายามฆ่า ข้อหามีอาวุธปืนฯ และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว จนติดตามจับกุมได้เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายจักรินทร์ ผู้เสียชีวิต ได้มีปากเสียงกับผู้ต้องหาทั้งสองราย และผู้ต้องหาที่ 1 ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายจักรินทร์จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้นได้นำศพมาอำพรางไว้ที่ป่าในจุดนี้ จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดที่ทิ้งของกลางอาวุธปืนเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดมาแล้ว และนำตัวมาชี้จุดที่อำพรางศพ

ในชั้นสืบสวนเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า และใช้อาวุธปืน แต่วันนี้เมื่อพบศพแล้วจึงแจ้งเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมูลเหตุมาจากการผิดใจกันเรื่องการยืมทรัพย์สิน แล้วกระทบกระทั่งทำร้ายร่างกายกันขึ้นจนทำให้เสียชีวิต แล้วนำศพมาอำพรางดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป