ผัวสตาร์ทรถที่จอดในบ้านตึกแถว หันไปมองด้านหลังเตรียมถอย แต่ลืมว่าเมื่อคืนจอดรถคาเกียร์ 1 พุ่งชนเมียดับ

วันที่ 27 มี.ค. 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.ท. อำนาจ โสมณวัฒน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิตในอาคารพาณิชย์ ซอยวิภาวดี 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงเดินทางมาตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาฯมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ที่ชั้น 1 พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว จอดอยู่ทางเข้าอาคาร ส่วนภายในพบร่างนางภุมรี อายุ 61 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งกำลังเตรียมช่วยปฐมพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อลายดอก กางเกงขายาว สีดำ

นายเทียนชัย อายุ 61 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 9 โมงกว่า ตนเองได้ลงมาจากหัองพักชั้นบน กำลังเตรียมตัวจะออกไปเบิกเงินที่ธนาคารเพื่อนำมาใช้จ่าย จึงเดินไปสตาร์ทรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้าน โดยไม่ทราบว่าภรรยาตนเดินตามลงมาด้วย ขณะที่ตนเองกำลังเปิดสวิตช์กุญแจเพื่อติดเครื่องรถอยู่นั้น ตนเองก็มองออกไปทางด้านหลังรถ และรถได้พุ่งไปด้านหน้าเนื่องจากตนลืมไปว่า เมื่อคืนที่จอดรถได้เข้าเกียร์ 1 ค้างไว้ เมื่อเครื่องยนต์ติดจึงพุ่งชนภรรยาที่อยู่ด้านหน้ารถ จนทำให้ภรรยาตนเสียหลักหงายท้องและศีรษะไปกระแทกกับอุปกรณ์ออกกำลังกาย

ในขณะนั้นรถได้พุ่งเข้าไปภายในบ้าน ส่วนตัวภรรยาของตนนั้นอยู่ใต้ท้องรถ ตนเองตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้ก็รีบเคลื่อนรถออก และรีบช่วยปฐมพยาบาลเพื่อจะนำไปโรงพยาบาล แต่ว่าภรรยาตนเองหมดสติไปแล้ว จึงรีบโทรแจ้งรถพยาบาลให้เข้ามารับตัวภรรยาไปส่งโรงพยาบาล เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพและรถพยาบาลมาถึงก็พบว่าภรรยาตนเสียชีวตไปแล้ว โดยตนและภรรยาได้พักอาศัยอยู่ที่ตึกนี้มากว่า 30 ปีแล้ว ตนมีอาชีพทำเบาะรถยนต์ ส่วนภรรยาเพิ่งจะเกษียณออกมาเมื่อปี 67 เคยเป็นอดีตผู้ช่วยวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาลพญาไท โดยวางแผนชีวิตกันไว้ว่าจะไปทำเกษตรเลี้ยงปลาที่บ้านของภรรยา ในอำเภอกัณทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานนอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การเบื้องต้น ซึ่งต้องรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน และผลการตรวจชันสูตรศพผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป