กาฬสินธุ์ วันนี้ (27 มี.ค. 2568) เวลา 08.53 น. ที่เพจ นักข่าวนอกจอ ที่มีจำนวนผู้ติดตามกว่า 9 แสนคน ได้โพสต์ข้อความว่า “สลด! ลูกชายฆ่าแม่วัย 68 ปี ที่ อ.สมเด็จ #กาฬสินธุ์” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็ว่า ยาบ้าแน่นอน กลียุคมันมาเร็วเกินไป คำว่าบุญคุณ พระคุณ ต่อไปจะไม่มีแล้ว จิตใจคนจะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ ทำร้ายพ่อแม่พี่น้องเหมือนไม่มีจิตใจ ยาของรัฐบาลจร้า คนป่วยของรัฐ

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ทราบจากแหล่งข่าวมาว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง ที่มีลูกชายวัย 40 ปี ติดสุราเรื้อรัง มีการป่วยจิตเวช อาศัยอยู่กับแม่บังเกิดเกล้าตามลำพัง เมาได้ที่เกิดอาการหลอนทางจิตประสาท ดื้อไม่ทานยาต่อเนื่องหลายวัน หลังดื่มสุราแล้วเกิดเอาการหลอนจึงใช้ของแข็งทุบศีรษะแม่บังเกิดเกล้า แถมยังบีบคอแม่ดับอนาถคามือ หลังก่อเหตุเดินไปบอกญาติให้มาดูศพแม่ ก่อนหลบหนีไปไม่นานย้อนกลับบ้านมาอีกครั้ง ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้ได้

 

พ.ต.อ.เกียรติกร แสนแก้ว พนักงานสวน สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกฆ่าเสียชีวิตในบ้านพัก หลังเกิดเหตุ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.สมเด็จ ได้รับทราบ เพื่อรายงานให้ พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้รับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมจันทร์ ภูดี รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน และอาสากู้ภัยอโสกสมเด็จ

 

ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ ห้องชั้นล่างของบ้านไม้ 2 ชั้น พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางสี หรือ นางปราณี อายุ 67 ปี สภาพศพมีบาดแผลบริเวณใต้คาง และโหนกแก้มขวา มีร่องรอยถูกกระแทกด้วยของแข็ง ตามลำคอด้านขวามีรอยเขียวช้ำ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

 

สอบถาม นายสว่างจิตร อายุ 65 ปี อาเขย ผู้เสียชีวิต ทราบว่าขณะที่ตนนอนหลับอยู่บ้านในบ้าน นายต๋อย หรือนายธีระพงษ์ อายุ 40 ปี ได้วิ่งเรียกตนให้ไปดู ยายสี ให้หน่อย ไม่ใช่นอนเสียชีวิตแล้วหรือไง จากนั้น นายต๋อย ก็ได้ขี่จักรยานไปหลบซ่อนตัวที่เถียงนากลางทุ่งท้ายหมู่บ้าน 

 

แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอยู่นั้น นายต๋อย ผู้ก่อเหตุ ก็ได้กลับมาที่บ้าน เมื่อชาวบ้านเห็นนายต๋อย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมเอาไว้ได้ขณะที่ นายต๋อย นั่งอยู่บริเวณแคร่ใต้ถุนบ้าน

 

โดยนายต๋อย ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าแม่บังเกิดเกล้าของตนเองจริง โดยใช้ของแข็งตีเข้าที่ปลายคาง และโหนกแก้มขวา ก่อนที่จะบีบคอจนเสียชีวิต ต่อมาจึงตัดสินใจไปบอก นายสว่างจิตร ญาติที่มีศักดิ์ เป็น อาเขย ให้มาดูศพ 

 

ด้านนายกิตติ ตาสาโรจน์ พี่ชายคนโต บอกว่า น้องชายเป็นน้องแฝดชาย-หญิง คนสุดท้องของแม่ ก่อนนี้ น้องชายไปทำงานรับจ้างที่ จ.ระยอง แต่หลังจากที่ทราบข่าวว่าน้องชายป่วยจากสาเหตุดื่มสุราจัด จนป่วยทางจิตประสาท จึงได้ไปรับตัวมาดูแล และรักษาตัวที่บ้านเกิด โดยอาศัยอยู่กับแม่ และบุตรสาวของน้องชายคนก่อเหตุ เมื่ออาทิตย์ผ่านมาบุตรสาวของน้องชายได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด จึงมีเพียงนายต๋อยน้องชายอาศัยอยู่กับแม่ตามลำพัง ซึ่งตนก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมแม่อยู่เป็นประจำ กระทั่งทราบว่าน้องชายมาก่อเหตุสลดดังกล่าว

 

ส่วนมูลเหตุนั้นตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เนื่องจาก นายต๋อย ผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมทานยารักษาอาการป่วยจิตเวชมาหลายวัน จึงเกิดอาการหลอนพูดจายังไม่รู้เรื่อง จับหัวชนท้ายยังไม่ถูก คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากประสาทหลอน เนื่องจากทานยาจากอาการป่วยจิตเวชไม่ต่อเนื่องหรือหยุดยาไปหลายวัน

 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น (บุพการี) จนถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี