"สุชัชวีร์" ชี้การพังทลายตัวอาคาร สตง. ผิดปกติ คล้ายการระเบิดแตกออกอย่างชัดเจน ไม่ทิ้งปมทุจริตก่อสร้าง
วันที่ 29 มี.ค. 2568 ที่บริเวณการก่อสร้างซากอาคารสำนักงานสำนักการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง.) ถนนกำแพงเพชร ย่านจตุจักร ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาค กทม. และอดีตนายกสภาวิศวกรสถานแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ดูสถานที่เกิดเหตุ โดยกล่าวว่า เราพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในความพยายามช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ภายในซากอาคาร ทั้งนี้ประเทศไทยเราไม่มีประสบการณ์แผ่นดินไหวจนตึก 30 ชั้นถล่มลงมาก่อน เคยมีแค่เหตุตึก 6-7 ชั้นถล่มเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยากในการรับมือ อีกทั้งเราไม่มีเครื่องมือในการปฏิบัติการกู้ชีพช่วยผู้รอดชีวิต แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร หน่วยกู้ภัยทุกคนต่างทุ่มเท แต่การกู้ซากแบบนี้จะต้องมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ และทีมวิศวกรอาสา ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าควรขอความช่วยเหลือจากประเทศที่มีประสบการณ์จริง คือญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนมีความใกล้ชิดกับทางญี่ปุ่น ถ้าหากว่ามีอะไรที่จะช่วยได้ เรายินดี แต่การกู้ซากแบบนี้จะต้องพร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญ ทีมวิศวกรอาสาที่ร่วมประชุมกันที่ศาลากลางแล้วเพื่อเสนอแนวคิดต่างๆ
นายสุชัชวีร์ ได้วาดแผนผังลักษณะของโครงสร้างอาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ 30 ชั้นที่พังถล่มลงมา โดยอธิบายการพังทลายของอาคารที่ผิดปกติว่าตามผังโครงสร้างอาคารนี้ มีเสาเข็ม มีเสาด้านข้างอาคารประกอบ มีลิฟต์ที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลัง และมีโครงสร้างคานที่เชื่อมต่อกับโครงสร้างกระดูกสันหลังและคานสำคัญ เมื่อเสาข้างล่างแตกออกในลักษณะที่ผิดปกติคล้ายการระเบิดแตกออกอย่างชัดเจน ส่วนฐานรากใต้ดินที่เป็นรากฐานสำคัญจะเป็นอย่างไร ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่เห็นและไม่ทราบการวางรากฐาน แต่ส่วนตัวมองว่าในการกู้ซากอาคารที่ถล่มนี้น่าจะต้องใช้เวลานานร่วมเดือน
“ลักษณะการพังทลายเหมือนอาคารระเบิด ผมย้ำว่าเป็นเหตุการณ์ผิดปกติที่มันพังทลายแบบนี้ เพราะตึกอื่นๆ ไม่พังเช่นนี้ ต้องหาสาเหตุต่อไป โดยช่วงนี้ต้องเร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในซากอาคารที่รอดชีวิตให้เร็วที่สุด โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วย ทั้งนี้เราจะต้องเก็บข้อมูลไปพร้อมกันให้ได้มากที่สุด เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่โทษหรือว่าตำหนิใคร”
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตถึงบริษัทที่รับสร้างอาคารนี้เป็นบริษัทต่างประเทศและมีการพังถล่มต่างจากอาคารอื่นๆ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองประเด็นนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีบริษัทต่างประเทศมาสร้างตึกแล้วก็ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้มีเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง รวมทั้งเรื่องของการทุจริตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในอนาคตคนไทยต้องยอมรับว่า ประเทศไทยที่อยู่ในเขตแผ่นดินไหว มีแนวเลื่อน “ศรีสวัสดิ์” แนวเลื่อน “สกาย” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรอยเลื่อนใหญ่ของประเทศเมียนมา รัฐบาลไทยต้องติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เราต้องเรียนรู้ที่จะต้องเผชิญเหตุอยู่กับแผ่นดินไหว โดยต้องปรับตัวและให้ความรู้ต่อประชาชน