ญาติผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม หลังเกิดแผ่นดินไหว ทยอยเดินทางมาเพื่อเก็บตัวอย่าง DNA สำหรับพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและติดต่อขอรับศพแล้ว
วันที่ 30 มี.ค. 2568 สำหรับบรรยากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าเริ่มมีบรรดาญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์อาคารก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่ ทยอยเดินทางมาเพื่อเก็บตัวอย่าง DNA สำหรับพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและติดต่อขอรับศพ
โดยพบว่า มีครอบครัวของนายเจษฎา สอนชัย อายุ 19 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมาเพื่อเก็บตัวอย่าง DNA พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หลังทราบข่าวร้ายว่านายเจษฎา คือผู้เสียชีวิตรายที่ 8 ที่พบร่างเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยทันทีที่ครอบครัวได้รับทราบข่าวร้าย แม่ของนายเจษฎาได้ร้องไห้โฮแล้วทรุดลงกับพื้น จนญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่พร้อมผู้สื่อข่าวต้องช่วยประคองมานั่งบนเก้าอี้ และดำเนินการปฐมพยาบาลด้วยการดมยาดมกับแอมโมเนียมเบื้องต้น
จากการสอบถามญาติของนายเจษฎากล่าวว่า นายเจษฎามาทำงานที่ตึกหลังนี้ได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งจากการพูดคุยล่าสุด นายเจษฎาตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านที่ขอนแก่นในช่วงสงกรานต์ แต่คงไม่ได้กลับไปอีกแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการรอผล DNA เพื่อยืนยันพิสูจน์อัตลักษณ์แน่ชัดว่าร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 8 คือนายเจษฎาจริง ๆ
ทั้งนี้มีรายงานว่า แม่ของนายเจษฎาและครอบครัวเพิ่งเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อจุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทาง ด้วยความหวังว่าจะเจอนายเจษฎาไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ก่อนที่ทราบในเวลาต่อมาว่า นายเจษฎา คือหนึ่งในผู้เสียชีวิตและได้นำศพมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา
ขณะเดียวกันจากการสอบถามข้อมูลกับ พล.ต.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางสถาบันนิติเวชวิทยาจะเปิดให้บริการรูปแบบ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องดำเนินการทางด้านเอกสารและติดต่อรับศพ โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่ทั้งจากฝ่ายปกครอง พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตั้งจุดให้บริการแก่ครอบครัวผู้สูญเสียที่ชั้น 3 ของสถาบันนิติเวชวิทยา รวมทั้งได้ระดมทีมแพทย์นิติเวชเพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อให้ได้ผลโดยเร็วที่สุด ก่อนจะส่งมอบศพให้ครอบครัวนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
โดยเบื้องต้นผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์ติดถล่มจะถูกนำร่างมาส่งที่สถาบันนิติเวชวิทยาและได้แยกโซนสำหรับให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเฉพาะเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในเรื่องของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและการส่งมอบศพให้แก่ครอบครัว ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจุดอื่น ๆ ของกรุงเทพมหานครนั้น ก็จะนำศพมาที่สถาบันนิติเวชวิทยาเช่นเดียวกัน ซึ่งยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้นจากสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเป็นการช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวเลขจำนวนผู้สูญเสีย ร่างที่ชันสูตรพลิกศพและครอบครัวที่มาติดต่อเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลนั้นยังไม่แน่นอน ทางเจ้าหน้าที่จึงอยู่ในระหว่างการประมวลข้อมูลและยอดจำนวนตัวเลขทั้งหมด ก่อนจะรายงานให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้งต่อไป