ไร้ปาฏิหาริย์! "บุญรอด" ทำงาน กทม. 4 ปีไม่กลับบ้าน บอกพ่อแม่จะกลับสงกรานต์นี้แต่เสียชีวิตเพราะตึกถล่ม

ยืนยันตัวตน เสียชีวิตแล้ว นายบุญรอด อายุ 34 ปี แรงงานก่อสร้าง ตึก สตง.ถล่ม ชาวบ้านคำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม พ่อแม่ รอรับศพกลับบ้านเกิด รอมา 4 ปี ไปทำงาน กทม. ไม่เคยกลับบ้าน รับปากจะกลับสงกรานต์เป็นปีแรก ไม่คิดจะกลับมาแบบนี้ วอนรัฐช่วยค่าทำศพ เยียวยา ครอบครัวยากจน ส่วนอีกคนเพื่อนแรงงานรุ่นน้อง วัย 17 ปี ยังไม่รู้ชะตากรรม

 

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ที่ จ.นครพนม ยังเป็นข่าวเศร้า สร้างความหวาดผวา สำหรับชาวบ้าน คำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม หลังเกิดเหตุการณ์ แผ่นดินไหว ในพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะตึก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เกิดถล่ม อีกทั้งมีแรงงานในหมู่บ้านกว่า 10 คน ไปทำงานก่อสร้างในตึกเกิดเหตุ ทำให้บรรดาชาวบ้าน ญาติพี่ น้องบต่างติดตามข่าว ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้แรงงานรอดชีวิต

 

ล่าสุด พบว่า แรงงานชาวบ้าน คำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม ส่วนใหญ่ติดต่อได้ แล้ว เหลือเพียง 2 คน ที่ขาดการติดต่อ  ส่วนรายแรกไร้ปาฏิหาริย์ คือ นายบุญรอด อายุ 34 ปี ยืนยันพบศพเสียชีวิตในตึกถล่ม นำร่างออกมาได้แล้ว ทางญาติยืนยันตัวตน เตรียมรับศพนำมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนอีกราย ทราบว่า เป็นแรงงานรุ่นน้อง หมู่บ้านเดียวกัน คือ นายจักรกฤษณ์อายุ 17 ปี ยังไม่รู้ชะตากรรม ขาดการติดต่อ

 

ขณะเดียวกันนายอุลัย อายุ 62 ปี พร้อมภรรยา คือ นางสุดาอายุ 61 ปี รวมถึงญาติพี่น้อง ต่างเตรียมบ้านพัก รอรับศพเพื่อจัดงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยหน่วยงานเกี่ยวข้อง กำลัง นำศพ นายบุญรอด อายุ 34 ปี ผู้เสียชีวิต กลับมาจาก กทม. ท่ามกลาง ความโศกศร้าของ ญาติพี่น้อง ไม่คิดว่าจะโชคร้ายแบบนี้

 

ทั้งนี้นางสุดา อายุ 61 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 5 คน มีอาชีพทำไร่ ทำนา บางคนไปทำงาน กทม. เลี้ยงครอบครัว ส่วนนายบุญรอด หรือรอด มีนายหน้าแรงงานในหมู่บ้านชักชวนไปทำงาน รวมเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ไม่ได้กลับบ้าน เพราะตั้งใจทำงานหาเงิน ส่งมาดูแลพ่อกับแม่ ยังไม่มีครอบครัว ก่อนนี้ได้โทรมาบอกว่า สงกรานต์ปีนี้จะกลับบ้าน มาเยี่ยมพ่อแม่ และญาติ ดีใจมากจะได้กลับบ้านในรอบ 4 ปี พอเกิดเหตุแผ่นดินไหว ตึกถล่ม ไม่คิดว่าลูกชายตนจะเสียชีวิต และกลับมาในสภาพร่างไร้วิญญาณ ยอมรับครอบครัวลำบากไม่มีเงินแม้กระทั่งทำศพ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลชดเชยเยียวยา 

 

ส่วน นายหลอด อายุ 49 ปี  เพื่อนบ้าน ที่เป็นอาผู้สูญหายอีกคน คือ นายจักรกฤษณ์ ศิลารัก อายุ 17 ปี ยังไม่รู้ชะตากรรม เปิดเผยว่า แรงงานในหมู่บ้านไปทำงานก่อสร้างในตึกแห่งนี้มากกว่า 10 คน เพราะมีนายหน้าแรงงานเป็นคนในหมู่บ้าน ชักชวนไปเมื่อหลายปีก่อน จนกระทั่งเกิดเหตุ นายหน้าแรงงานโทรมาแจ้ง ต่างพากันหวาดผวา รอเพียงแค่ปาฏิหาริย์ เพราะทุกคนทำงานในตึก จนกระทั่งล่าสุด เกิดข่าวเศร้า ยืนยัน นายรอด เสียชีวิต และหลานชายตนยังไม่รู้ชะตากรรม ส่วนคนอื่นเจอตัวหมดแล้ว ไม่เจอเพียง 2 คน เสียชีวิต 1 คน ยังเหลืออีก 1 คน ที่รอแค่ปาฏิหาริย์