"ลุงสมนิจ" กุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดซากอาคาร สตง. เผยรู้สึกผิด-ขอโทษ รับเก็บบัตรพนักงานได้จากถังขยะ

วันที่ 1 เม.ย. 68 ระหว่างที่เจ้าที่ตำรวจคุมตัว นายสมนิจ ดวงเนตร เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนจะนำตัวฝากขังนั้น ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกผิดหรือไม่ และเหตุใดจึงโกหกไปแบบนั้น และที่สำคัญคือนายสมนิจ เก็บบัตรพนักงานของนางสาวกรวิภา ผู้เสียหาย มาได้อย่างไร โดยนายสมนิจ บอกย้ำๆว่า ตนเองรู้สึกผิด และขอโทษ ส่วนบัตรพนักงานของผู้เสียหายนั้น ตนเองเก็บได้จากถังขยะ

ซึ่งในระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายสมนิจนั้น ผู้สื่อข่าวยังคงได้กลิ่นสุรา และนายสมนิจ ยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนก ตกใจ / ก่อนจะเข้าห้องสอบสวนไป

ต่อมาเวลา 11.20 น. พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายสมนิจ ดวงเนตร มาพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษกในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งนายสมนิจ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ยอมรับว่าที่ตนเองก่อเหตุแบบนั้นเป็น เพราะติดสุราอย่างหนัก และอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมอ้างว่ามีอาการทางจิต ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งนายสมนิจ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีการใช้สารเสพติด

ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าการที่นายสมนิจกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาทำให้มีหลายคนสงสาร และเข้าใจผิดถึงขั้นร้องไห้ นายสมนิจ ได้ยกมือไหว้บอกว่าอยากขอโทษผู้เสียหาย ประชาชนคนไทยทุกคน ผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักข่าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยกุเรื่องหลอกลวงใครเช่นนี้มาก่อน และไม่ได้มีเจตนาต้องการให้คนโอนเงินมาให้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าคนใกล้ชิดของนายสมนิจนั้นบอกว่านายสมนิจทำพฤติกรรมแบบนี้บ่อย นายสมนิจ ยืนยันว่าไม่เคยทำมาก่อน

โดยนายสมนิจ อ้างว่าตนเองเก็บบัตรพนักงานของผู้เสียหายได้จากถังขยะย่านลาดพร้าว เมื่อต้นปีที่แล้ว และอยู่ในถุงที่ตนเองพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เนื่องจากตนเองมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าการที่ทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายตกใจ และเข้าใจผิดคิดว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว นายสมนิจ ยกมือไหว้ และบอกว่าตนเองก็รู้สึกผิดอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย รวมถึงตัวผู้เสียหาย

นายสมนิจ ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้แล้ว และ ขอโทษคนไทยทั้งประเทศอีกรอบ ส่วนเมื่อวานนี้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่บริเวณขนส่งหมอชิตนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหนีแค่เดินไปเรื่อยๆ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับเงินบริจาคจากประชาชนมาเท่าไหร่นายสมนิจ ยืนยันว่าไม่ได้รับเงิน เพราะตนเองไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีแอปพลิเคชันธนาคาร ส่วนเงินสด 5,000 บาท ที่ได้รับมา ได้คืนให้กับคนที่มอบให้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเงิน 300 บาทที่มีผู้สื่อข่าวให้มานั้น ยอมรับว่าได้นำไปซื้อสุราดื่มจริง ซึ่งซื้อดื่มไป 1 กั๊ก

นายมานิจก็รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ตอนนี้ครอบครัวก็ได้รับความเดือดร้อน ลูกสาวก็ได้รับผลกระทบ นายสมนิจ ยอมรับว่าตนเองรู้สึกผิดกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกสาวเนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ติดต่อไปหา ส่วนยาที่พบในกระเป๋าซึ่งเป็นยากินนั้น นายสมนิจ เผยว่าไม่ทราบว่ามาจากไหน ไม่แน่ใจว่าได้มาจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือไม่

ต่อมานายสมนึกก็ได้กล่าวทิ้งท้ายขอโทษว่า
“ขอโทษคนไทยทั้งประเทศ ขอโทษนางสาวกรวิภา และลูกสาวของตนเอง ขอโทษทุกคน ขอโทษทีมกู้ภัย สำนักข่าวทุกช่อง พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก” ซึ่งนายสมนิจได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้สัมภาษณ์แต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากตอนนี้ตนเองมีอาการสั่น และจะเป็นลม

ins : ถ้าพนักงานสอบสวนไม่ปล่อยเสียงนะคะ

ทางพนักงานสอบสวนให้ข้อมูล จากการสอบปากคำนายสมนิจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าที่ทำไปนั้นเป็น เพราะตนเองดื่มสุราหนัก ส่วนสาเหตุที่ติดสุราขนาดนี้เป็นเพราะมีปัญหาทางด้านครอบครัว หลังจากนั้นก็มาใช้ชีวิตโดยเก็บของเก่าตามข้างทางอยู่คนเดียว อีกทั้งอยากจะเป็นที่สนใจและอยากดังพอเจอผู้สื่อข่าวก็เลยกุเรื่องขึ้นมา

นอกจากนี้ตำรวจยังได้นำตัวนายสมนิจไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะจากการตรวจสอบไม่พบสารเสพติดในร่างกายของนายสมนิจ