กัน จอมพลัง พาอดีตแฟนนายฮอต ไฮโซกำมะลอ ติดตามความคืบหน้าคดีที่เคยแจ้งความถูกหลอกจะแต่งงาน แต่ก่อนถึงวันงาน 1 วัน อ้างมีวางระเบิดที่โรงแรม 3 ลูก

วันที่ 10 เม.ย. 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พานางสาวปาล์มมี่ อดีตแฟนสาว เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเอาผิด นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือนายฮอต ที่สน.บางเขน โดยนางสาวปาล์มมี่ เล่าว่า เริ่มรู้จักนายฮอต เมื่อประมาณปี 2559 เพราะว่าเป็นลูกค้าร้านอาหารของตนเอง จากนั้นได้คบหากันเป็นเวลากว่า 1 ปี โดยขณะที่คบหากัน ตัวนายฮอตอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนดัง โดยใช้นามสกุลเดียวกันกับชื่อโรงเรียน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกัน นายฮอตได้นำทรัพย์สินเงินทองของตนเองไป โดยมีการกล่าวอ้างว่าจะนำทองไปเพิ่มมูลค่า แต่เมื่อนำไปแล้วกลับนำทองปลอมมาคืน รวมถึงไอแพด โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป ที่อ้างว่านำไปใช้กิจกรรมของโรงเรียนก็ไม่เคยนำมาคืน แต่เอาเงินมาให้แล้วบอกว่าได้เงินมาจากการทำงาน เมื่อตนเองตรวจสอบแล้วพบว่า เงินที่ได้มาเป็นทรัพย์สินของตนเองที่นายฮอตนำไปขาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.8 แสนบาท

นางสาวปาล์มมี่ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายฮอตยังเคยอ้างว่าเป็นนายหน้าขายที่ดิน และพาตนเองไปดูบ้านจำนวน 3 หลัง รถหรู อาทิ โรลสรอยส์ BMW และอัลพาร์ด รวม 10 คัน และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านจำนวนมาก ทำทีท่าติดต่อเจรจาขอดูใบเสนอราคา อ้างว่าจะมีเลขาฯ นำเงินมาจ่าย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อจริง และไม่เคยได้ทรัพย์สินอะไรจากตัวนายฮอตเลย นอกจากทองคำและแหวนเพชรที่เคยนำมาให้ตอนขอแต่งงาน หลังคบหากันไม่กี่เดือน ซึ่งตนเองใส่แล้วแพ้จึงรู้ว่าเป็นของปลอม

ส่วนสาเหตุที่ยินยอมแต่งงานในช่วงนั้น ทั้งที่คบหากันได้เพียงไม่นาน เพราะนายฮอตมักจะแอบอ้างเบื้องสูงบีบให้แต่งงาน โดยพาไปดูสถานที่ที่เป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เมื่อใกล้ถึงวันงาน 1 วัน กลับอ้างว่าได้รับแจ้งจากตำรวจ EOD ว่าพบระเบิดจำนวน 3 ลูกในโรงแรม เนื่องจากนายฮอตอ้างว่าเป็นคนใกล้ชิดเบื้องสูงอาจถูกลอบทำร้าย ทำให้ต้องยกเลิกงานแต่งไปก่อน

นางสาวปาล์มมี่ ยังบอกอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่คบกัน นายฮ็อตมักจะเดินไปคุยโทรศัพท์และพูดเหมือนกับว่าปลายสายเป็นผู้ใหญ่ ตนเองเริ่มระแคะระคายจึงแอบบันทึกเสียง กลับพบว่า นายฮอตมีการพูดคุยเพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งยังปลอมไอดีไลน์เป็นเบื้องสูง พิมพ์แชตอยู่ชั้นล่างของบ้าน เพื่อส่งให้ตนเองที่อยู่ข้างบนบ้าน แต่ตนเองแอบสังเกตพบพิรุธ จึงเดินลงมา พบว่านายฮอตเป็นคนแชตกับตนเอง ไม่ใช่เป็นเบื้องสูงตามที่กล่าวอ้าง

เมื่อตนเริ่มรู้ตัวจึงตัดสินใจเลิก แต่ตัวนายฮอตก็พยายามยื้อและนำเบื้องบนมาข่มขู่ พร้อมพยายามจะทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ เพราะระหว่างนั้นก็ทราบว่าตัวนายฮอตคบซ้อน เนื่องจากได้โพสต์แจ้งในเฟซบุ๊กส่วนตัวและมีคนทักมาให้ข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ตนเองรู้ว่านายฮอตไปหลอกเหยื่ออีกหลายคน ซึ่งนายฮอตเป็นคนคารมดี ชอบดูแลเอาใจใส่ มีเวลาให้ ทำให้หลายคนหลงรัก

เมื่อถามว่า หน้าตานายฮอตดีหรือไม่ นางสาวปาล์มมี่หัวเราะ บอกว่า เมื่อก่อนผอมและดูดีกว่านี้ แต่ล่าสุดที่เห็นรู้สึกว่าจะอ้วน และผิวคล้ำขึ้น

นางสาวปาล์มมี่ กล่าวต่ออีกว่า ตนเองจึงตัดสินใจเข้าแจ้งดำเนินคดีกับนายฮ็อตไว้ ที่ สน.บางเขน เมื่อปี 60 แต่ผ่านมาแล้ว 8 ปี คดียังไม่ถูกพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใด ในวันนี้จึงเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับนายฮอตว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้างและดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ตนเองเชื่อว่า ครอบครัว ไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะทุกครั้งที่นายฮอตถูกจับ ครอบครัวจะต้องเดือดร้อนไปประกันตัว รวมถึงการนำนามสกุลต่างๆ มาแอบอ้าง เชื่อว่าทำเพียงลำพัง

ด้านกัน จอมพลัง ฝากบอกผู้เสียหายทุกคนว่า ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลของนายฮอต อย่างรูปที่เข้าไปนั่งอยู่กับกองทัพอากาศ ตนตรวจสอบแล้วพบว่า ทหารอากาศถูกหลอกให้พาเข้าไปนั่งเช่นเดียวกัน ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว และหลังจากนี้จะฝากทางนายนริสสร แสงแก้ว สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางเขน ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยกับผู้เสียหาย