กู้ภัยสอดท่อเติมอากาศหลังพบสัญญาณไฟจากโทรศัพท์มือถือ เร่งใช้สองมือและเครื่องตัดถ่างเปิดโพรงเข้าช่วยเหลือ

วันที่ 11 เม.ย. 2568 เวลา 10:35 น. นายภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม ผู้ปฏิบัติงานในการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังพบการส่งสัญญาณไฟขอความช่วยเหลือบริเวณโซน B ว่า เราได้รับภารกิจตอน 06:00 น. ไปร่วมค้นหากับทีมกู้ภัยกองกำลังผสม ซึ่งการค้นหาในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่มูลนิธิเพชรเกษมที่ทำงานร่วมกันมาหลายวัน

นายภคพล กล่าวต่อว่า ปกติเราจะทำงานสลับกับเครื่องจักร โดย ผบ.เหตุการณ์หน้างานให้เวลา 1 ชั่วโมงในการเข้าค้นหาในพื้นที่โซน A โซน B และโซน C ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินผ่านบริเวณโพรง B ทางเชื่อมไปที่อาคารจอดรถ โดยเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เปิดเครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้หยุดฟัง และคิดว่าเสียงโทรศัพท์ดังกล่าวไม่ได้มาจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าเสียงมาจากโพรงด้านล่างที่มีความกว้างตอนเจอประมาณ 50 เซนติเมตร

เจ้าหน้าที่จึงได้ชะโงกหน้าเข้าไปดู พบว่ามีแสงสีขาวที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งตอนแรกคิดว่าตาฝาด จึงเรียกเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่จากทีม USAR ใช้กล้องงูขนาดเล็ก ก็พบกับแสงไฟสีขาวที่คาดว่ามาจากสมาร์ทโฟน เจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนถามข้างล่างว่ามีผู้รอดชีวิตหรือไม่ หากมีให้ขยับตัวให้ดู แต่ไม่มีการขยับ เจ้าหน้าที่ USAR จึงอนุมานว่า อาจจะไม่มีแรงขยับตัว เนื่องจากผ่านมาแล้ว 15 วัน จึงตะโกนไปใหม่ว่า หากมีผู้รอดชีวิตไห้ปิดไฟมือถือ ซึ่งแสงไฟสีขาวก็ดับลง เราจึงย้ำว่าให้เขาเปิดไฟอีกครั้ง และแสงไฟก็ดับๆ ติดๆ ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่กู้ภัย

นายภคพล กล่าวอีกว่า พวกตนมีความหวัง เพราะเราเจอเคสสีดำมาหลายครั้ง และอยากเจอเคสสีเขียวบ้าง แม้บางคนจะบอกว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง แต่ครั้งนี้อาจจะมีจริงก็ได้ เราจึงพยายามอย่างถึงที่สุด แต่จะเป็นคนที่รอดชีวิตหรือไม่ เราก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นด้วยตาตัวเอง รวมทั้งจากสแกนด้วยเครื่องมือก็พบร่างกายมนุษย์คนแรก ห่างจากพื้นดิน 1 เมตร ส่วนอีกคนห่างจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร แต่จะเป็นผู้รอดชีวิตหรือไม่ยังไม่ฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็หวังว่าจะเป็นผู้รอดชีวิต

ขณะที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกองกำลังผสมกำลังช่วยกันใช้มือนำเศษดิน เศษหินออก เนื่องจากบริเวณด้านหลังเศษปูนถูกบดขยี้ด้วยเครื่องจักร จึงสามารถใช้แรงคน และคีมเครื่องตัดถ่างในการพยายามเปิดปากโพรง เพื่อขยายให้เจ้าหน้าที่สามารถลงไปได้ และตอนนี้เราก็ใช้ท่อส่งอากาศเพื่อเติมออกซิเจนลงไปข้างล่าง หากมีผู้รอดชีวิต ก็จะได้เติมอากาศให้เขา

นายภคพล อธิบายว่า โพรงดังกล่าวมีคานอยู่คานหนึ่ง หากได้เห็นแปลนของโครงสร้างสำนักงานก็จะพบทางเชื่อมอาคารจอดรถอยู่ และตัวทางเดินจากอาคารไปลานจอดรถ จะมีคานตัวนี้ค้ำอยู่ ซึ่งมีความเฉียง 45 องศา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเซาะทางคาน และพยายามเปิดหน้าดิน และเติมอากาศเข้าไป รวมทั้งโพรงดังกล่าวมีลักษณะเป็นรู

ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าทำไมการทำงานถึงช้า นายภคพล ระบุว่า แม้จะมีเครื่องจักรหลายตัว และมีการทำให้ปูนแตกหลายครั้ง ซึ่งต้องอย่าลืมว่าเมื่อผ่านปูนไปแล้วยังมีเหล็กอยู่ และอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างไฟฟ้าสามารถตัดเหล็กได้ทีละเส้นเท่านั้น หากตัดทีละหลายเส้นอุปกรณ์อาจจะพังได้

 

นายภคพล ยังฝากถึงผู้ที่แชร์ข้อความปล่อยข่าวมั่วว่า ตนมองว่า “ถ้าคุณนั่งอยู่บ้าน แล้วไม่มาช่วย จะมาบอกว่าคนอื่นปล่อยข่าวมั่ว ทำงานมั่ว ก็มาทำงานด้วยกัน มาเป็นกู้ภัย หรือออกมาทำงานช่วยประชาชน และขออย่าให้เป็นเกรียนคีย์บอร์ดนั่งอยู่ที่บ้าน”

กู้ภัยสอดท่อเติมอากาศ สองมือ-เครื่องเร่งเปิดโพรงตามหาแสงไฟ