ภาพบีบหัวใจ! เคลื่อนร่าง พ้นใต้ซากตึกมรณะ ขณะที่ ดีเอสไอ ลุยเก็บหลักฐาน สางคดีนอมินีบริษัทจีน-เลี่ยงภาษี
กู้ภัยยังคงพยายามเร่งรื้อซากปรักหักพังที่เกิดเหตุ ตึกสตง. ถล่มอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย มีการนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากที่เกิดเหตุทั้งหมด 3 ราย ซึ่งอยู่บริเวณโซน Bใกล้เคียงกับจุดที่ทีมกู้ภัยอ้างว่าพบแสงไฟมือถือ แต่ส่วนการค้นหาผู้ที่ส่งสัญญาณมือถือขณะนี้ยังไม่พบ
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนถึงช่วงบ่ายของวันนี้ เครื่องจักรหนักได้หยุดทำงานชั่วคราว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่ใช้กำลังพลเจ้าหน้าที่กู้ภัยขึ้นไปค้นหาผู้สูญหาย และนำร่างผู้สูญหายลงมา
ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยสั้นๆกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ขุดไปจนถึงฐานรากของตึกแล้ว มีการปรับแผนตามหน้างาน เนื่องจากพบแผ่นปูนขนาดใหญ่ คาดว่าหากเจาะแผ่นปูนขนาดใหญ่นี้ได้ ก็จะไปถึงใต้ฐานตึก ซึ่งเป็นจุดที่ทีมกู้ภัยอ้างว่ามีแสงไฟส่อง ส่วนที่ทีมกู้ภัยนำชิ้นส่วนของมนุษย์ออกมาทั้งสามรอบนั้น จะต้องให้ทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจเป็นผู้ยืนยันว่ามีทั้งหมดกี่ร่าง
ข้อมูลตัวเลขล่าสุดจากเหตุการณ์นี้ ได้รับการยืนยัน เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 35 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย และยังอยู่ในระหว่างค้นหาอีก 59 ราย
คืบ50% สอบคดีนอมินีบริษัทจีนสร้างตึก สตง. เร่งตรวจสอบเส้นเงิน-เลี่ยงภาษี
พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยภาพรวมที่ดีเอสไอรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ว่า มีอยู่ 3 กรณี โดยกรณีแรกคือการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือ นอมินี ที่ดีเอสไอเริ่มการสอบสวนไปแล้วเกือบ 50% และขยายผลว่าไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเสนอราคาด้วยหรือไม่ ซึ่งการร่วมเก็บพยานหลักฐานในครั้งนี้ จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรฐานของอุตสาหกรรมในส่วนของวัสดุก่อสร้างต่างๆ โดยวันนี้ยังมีการเก็บซีเมนต์ไปตรวจสอบ ว่าเข้าองค์ประกอบที่ตกสเปคหรือไม่ หากมีการตกสเปคก็จะมากล่าวโทษเพิ่มเติม โดยขณะนี้กำลังติดตามเรื่องของเส้นเงินอยู่ และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเส้นทางการเงินบ้างแล้ว รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ และมีการรายงานความคืบหน้าอยู่ทุกวัน
กรณีที่ 2 ดีเอสไอรับทำคดีแล้ว อยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการ เนื่องจากพึ่งได้รับหนังสือจากกรมสรรพากรมาร้องดีเอสไอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ตรวจสอบเรื่องของการเลี่ยงภาษีของบริษัท ซิน เคอหยวน สตีล จำกัด โดยพบหลักฐานที่มีเหตุบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่มาจากภาษีที่ไม่ถูกต้อง โดยทางกองคดีภาษีอากรได้แยกรับคดีนี้
ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่ดีเอสไอพึ่งได้รับมาเมื่อวานนี้ (11 เมษายน) คือกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงาน ได้เข้าตรวจบริษัท ซิน เคอหยวน สตีล จำกัด โดยมีดีเอสไอไปร่วมสืบสวนด้วย ในประเด็นฝุ่นแดง 4 หมื่นตัน ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยตั้งคณะสืบสวนแล้ว รอเพียงอธิบดีดีเอสไออนุมัติให้สืบสวน ก็จะเข้าไปประสานงานเพื่อรวบรวมข้อมูลต่อไป