ดีเอสไอ เรียกไชน่า เรลเวย์ - อิตาเลียน - ผู้ร่วมประมูล ก่อสร้างตึก สตง. เข้าให้ปากคำ ด้านการสืบสวนพบเส้นเงินปลายทางถึง 2 บอสชาวจีน ด้านผู้อำนวยการเขตจตุจักร เผยเจ้าหน้าที่พยายามขุดโพรงเข้าไปจุดที่พบแสงไฟ
วันที่ 13 เมษายน 2568 บรรยากาศที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ถล่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยยังใช้เครื่องจักรหนักในการขุดหาและทำลายสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะโซน B และ C ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมามีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เข้าเก็บหลักฐานบางส่วนที่เป็นเหล็ก และซีเมนต์ นำไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยยอดผู้ประสบภัยเวลา 10.00 น. มีผู้เสียชีวิต 37 ราย ผู้สูญหาย 57 ราย
โดยร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ระบุว่า วันนี้เป็นการเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งทางดีเอสไอยังคงต้องเข้าพื้นที่หน้างานอย่างต่อเนื่อง โดยการทำงานของดีเอสไอนั้น แบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน คือส่วนที่เก็บหลักฐานและส่วนสอบสวน
ร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ กล่าวต่อว่า โดยงานสอบสวนนั้นก็มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการนัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือ นอมินี ให้เข้ามาให้ข้อมูลในวันที่ 18 เมษายน - 15 พฤษภาคม โดยจะมีบริษัทที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทที่ร่วมประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง.
ร้อยตำรวจเอกสุรวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า เบื้องต้นจากเส้นทางการเงินพบว่าปลายทางมีการโอนไปถึง 2 บุคคลชาวจีน ซึ่งขณะนี้ทางดีเอสไอมีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้
ขณะที่ นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยถึงปฏิบัติการการค้นหาว่า ก่อนหน้านี้ที่พบแสงไฟกระพริบตรงบริเวณโซน B ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะโพรงเพื่อเข้าค้นหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามตะโกนเรียกหรือส่งส่งสัญญาณ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่หมดหวัง ยังเร่งปฏิบัติการต่อไป
นางสาวภัทร์กร กล่าวต่อว่า ส่วนการทำงานด้านในไซต์งานนั้น ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่าขาดเหลืออะไร แต่ทางสำนักงานเขตจตุจักร ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง โดยปฏิบัติการมีความคืบหน้าไปเยอะเนื่องจากได้เครื่องจักรใหญ่มาดำเนินการค้นหา แต่อุปสรรคหน้างานยังคงเป็นเรื่องของการขุดเจาะ เนื่องจากมีแผ่นปูนขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการยกแผ่นปูนออกและจะต้องมีการปรับแผนการปฏิบัติงานอยู่ตลอด โดยจะมีการประชุมร่วมกันในทุกหน่วยงาน