วงจรปิดเผยภาพ "ไอ้โทน" ตีนโหด เตะเมียร้องครวญครางจนตาย ญาติเผยปมทะเลาะ ฝ่ายชายทวงสร้อยทอง
วันที่ 14 เมษายน 2568 จากกรณีที่ตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุชายหญิงทะเลาะวิวาทกันที่ห้องเช่า ติดกับซอยธนิตธุรกิจ ถ.ศักดิเดชน์ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จนฝ่ายหญิงคือคือ น.ส.สุพัตรา อายุ 28 ปี เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุคือนายหัฐนัย หรือโทน อายุ 30 ปี เป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.สุพัตรา นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วิชิต ได้ยื่นฝากขังต่อศาลจังหวัดภูเก็ตแล้วในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย”
ล่าสุด นางสาวมิ้ว (นามสมมุติ) น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าว โดยระบุว่า ตนเคยพูดคุยกับนายโทนผู้ก่อเหตุ ผ่านข้อความแชตมาก่อนหน้านี้ ซึ่งนายโทนเคยกล่าวหาว่า พี่สาวของตนเคยหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนชื่อ “ฝ้าย” และเชื่อว่าเป็น “คนพาไปทำเรื่องเลวด้วยกัน” อย่างไรก็ตาม นางสาวมิ้วยืนยันว่า ตนไม่ทราบเรื่องและไม่สามารถติดต่อพี่สาวได้ในช่วงนั้น
ประเด็นเรื่องสร้อยทองคำก็เป็นอีกหนึ่งข้อขัดแย้ง โดยนางสาวมิ้วให้ข้อมูลว่า นายโทนเคยซื้อทองให้พี่สาวตนทั้งสร้อยข้อมือและสร้อยคอ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นของที่ทั้งสองคนออกเงินร่วมกัน แต่ไม่ทราบน้ำหนักแน่ชัด โดยเส้นแรกน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 1 สลึง ทั้งนี้ นางสาวมิ้วระบุว่า ในข้อความแชต นายโทนเคยบอกว่า “ขอแค่ทองคืนอย่างเดียว แล้วจะเลิกกัน ต่างคนต่างอยู่” และยังฝากให้นางสาวมิ้วไปบอกพี่สาวให้ช่วยส่งเสื้อผ้าซึ่งเก็บไว้ในถุงดำ 2 ถุงหน้าบ้านให้ด้วย
นางสาวมิ้ว ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า พี่สาวของตนมีความหวังและฝันถึงการมีครอบครัวที่อบอุ่น โดยช่วงหนึ่งได้พูดถึงความดีของ “ฝ้าย” เพื่อนสนิทที่เคยชวนกันทำมาหากิน และยังเคยเป็นที่พักพิงเมื่อพี่สาวหนีออกจากบ้านมา “พี่เคยบอกว่าอยากมีลูก อยากได้หลานสาว เพราะตอนนั้นพี่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง และพี่ก็อาสาเลี้ยงลูกของหนูเองด้วย หนูไม่คิดเลยว่าสุดท้ายต้องมารับศพพี่กลับบ้านแทนแบบนี้”
นายเบส อายุ 15 ปี ยังเล่าเพิ่มเติมว่า พี่สาวของตนเคย หนีออกจากบ้านที่อยู่กับนายโทนมาแล้วหนึ่งครั้ง และไปพักอาศัยกับเพื่อนสนิทชื่อ “ฝ้าย” ที่หอพักอีกแห่งหนึ่ง ก่อนที่นายโทนจะตามไปรับตัวกลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง และในเวลาต่อมาก็เกิดเหตุสลดขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิต
ด้านนางจอย (นามสมมุติ) แม่เลี้ยงของนายโทน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ร่วมกันกับนายโทน และ ไม่เคยมีการติดต่อกันมาก่อน จึงเพิ่งทราบข่าวจากสื่อเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ว่าลูกเลี้ยงของตนก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ขณะนี้ ศพของผู้เสียชีวิตถูกเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รอให้แม่และพี่ชายของผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งทางครอบครัวยังประสบปัญหาเรื่องพาหนะในการเดินทาง และอยู่ระหว่างการหารถเดินทางลงใต้ในคืนนี้