"สมเกียรติ" ยืนยันถูกปลอมลายเซ็น ไม่ได้คุมงานก่อสร้างมา 20 ปีแล้ว ไม่รู้จักนายปฏิวัติ แต่ไม่ขอตอบเกี่ยวกับกิจการร่วมค้า PKW
วันที่ 15 เม.ย. 2568 นายสมเกียรติ ชูแสงสุข วุฒิวิศวกร และประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าพบพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลกรณีถูกแอบอ้างชื่อและถูกปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW ที่เป็นคู่สัญญา ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
พันตำรวจเอกทวี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุผ่านมาแล้ว 18 วัน การค้นหาผู้สูญหายและการหาสาเหตุของตึกถล่มจะต้องทำควบคู่กัน โดยวันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญนายสมเกียรติ เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน กรณีถูกแอบอ้างชื่อและถูกปลอมลายเซ็น หลังจากนี้จะนำลายเซ็นที่ปรากฏในใบผู้ควบคุมงานกิจการร่วมค้าที่เป็นปัญหาไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากพบว่าถูกปลอมลายเซ็นก็จะต้องไปตามหาผู้แอบอ้างลงนามมาดำเนินคดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ตามระเบียบการก่อสร้างอาคารหรือสำนักงานของหน่วยงานราชการ จะมีกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ออกแบบให้ ภายใน 180 วัน แต่หากไม่ทันตามกำหนดสามารถจ้างบริษัทเอกชนมาออกแบบได้
นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นตัวเอง ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ซึ่งยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานนี้ ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินคดีทางแพ่งหรือไม่ขอปรึกษาทนายความ
ส่วนกรณีของนายปฏิวัติ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW นั้น ตนไม่รู้จัก ตัวเองไม่ได้คุมงานก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว และไม่ขอตอบเกี่ยวกับกิจการร่วมค้า PKW
พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า การตรวจเหล็กเส้นที่เข้าไปเก็บมาจากสถานที่เกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ หากพบว่าขนาดไม่ตรงกับที่ระบุก็จะต้องถูกดำเนินคดี
ส่วนนอมินีคนไทย 3 คน ที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 นั้น ยังไม่พบตัว แต่เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำญาติ และขอเอกสารเส้นทางการเงินจากธนาคารมาตรวจสอบแล้ว ซึ่งจะทำให้พบหลักฐานการถือหุ้นของบริษัทที่แท้จริง