ผัวคลั่งทะเลาะเมีย ก่อนสาดกระสุนใส่เมียเจ็บปางตาย เมียร้องขอชีวิตแต่ไม่ฟังอุ้มร่างขึ้นกระบะขับหนีข้ามจังหวัดไปโผล่ จ.กาญจนบุรี เพื่อนเผย หลังเกิดเหตุฝ่ายหญิงวิดีโอคอลมาหาน้ำเสียงสั่นเครือบอก "ขอเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย"
วันที่ 19 เมษายน 2568 มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมา ร.ต.อ พุทธรักษ์ สอนคําหาร รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันภายในห้องแถว ซอยเทพประสิทธิ์ 15 หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจสายตรวจ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) รีบรุดไปทำการตรวจสอบ
ไปถึงห้องแถวดังกล่าว พบเพียงรอยคราบเลือดอยู่ที่พื้นหน้าห้องแถว และพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมี นายปรีชา อายุ 56 ปี ยืนรอให้การกับตำรวจว่า เมื่อช่วงเวลาเกือบจะ 1 ทุ่ม ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่าให้รีบกลับมาที่ห้องเช่าด่วน เพราะได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด และมีเสียงผู้หญิงขอความช่วยเหลือ จึงรีบขี่รถกลับมาดู แต่พอมาถึงก็พบว่าลูกสาว คือ นางสาวธิดาพร หรือสมาย อายุ 26 ปี มีอาชีพขายมะม่วงกับดอกไม้ในตลาด ได้หายตัวไปพร้อมกับรถกระบะสี่ประตู สีส้ม
อีกทั้งยังพบกองเลือด และปลอกกระสุนปืนตกอยู่เกลื้อนพื้น ตอนนั้นคิดว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกสาวแน่ ๆ และเชื่อว่าน่าเป็นฝีมือของลูกเขย ชื่อว่า นายครัช อายุประมาณ 28-30 ปี ซึ่งคบหากันได้ประมาณ 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวพยายามบอกเลิกตีตัวออกห่าง เพราะลูกเขยรายนี้มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ช่วยลูกสาวทำมาหากิน โดยลูกสาวเพิ่งจะส่งตัวลูกเขยให้กลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.กาญจนบุรี แต่จู่ ๆ วันนี้ทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกจนมาเกิดเรื่องดังกล่าว
นางสาวแนน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี เพื่อนรุ่นพี่สนิทกับ นางสาวธิดาพร หรือสมาย ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ สมายได้นำลูกสาวมาฝากตนเองเลี้ยง จนช่วงเวลา 19.35 น. สมายได้วิดีโอคอลผ่านเฟซบุ๊กมาหาตนเอง โดยพูดในน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ขอเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย” ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกมากเพราะอะไรสมายถึงพูดแบบนั้น จึงหันกล้องไปให้ดูหน้าลูกสาวของตัวเอง ซึ่งมีบางช่วงสมายพยายามหันกล้องให้เห็นหน้าสามีของเธอ ซึ่งอยู่ในสีหน้าคล้ายคนกำลังคลุ้มคลั่ง พอวางสายจากสมายตนก็รีบเดินทางมาบอกพ่อสมายทันที
ด้านนายสุที อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลา 18.30 น. ได้ยิงเสียงปืนดังสนั่นหลายนัดติดต่อกัน น่าจะมีประมาณ 5-6 นัด ก่อนจะมีเสียงผู้หญิงกำลังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ บางช่วงก็ได้ยินผู้หญิงพูดร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา จึงชะโงกหน้าไปดู พบว่าผู้หญิงถูกยิงจมกองเลือด ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชาย คาดว่าน่าจะเป็นสามี ในมือถือปืนไว้ตลอดเวลา จากนั้นฝ่ายชายได้อุ้มร่างผู้หญิงขึ้นรถกระบะสี่ประตูสีส้ม แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด และเป็นหลักฐานสำคัญ โดยพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. นางสาวธิดาพร หรือสมาย มีปากเสียงกันกับ นายครัช ผู้เป็นสามี จนฝ่ายหญิงมีการพูดในทำนองว่า “มึงทำอะไร มึงรู้ไหมกูทำงานหาเงิน มันเหนื่อยแค่ไหน” ก่อนที่นายครัช จะเดินมานั่งหน้าห้อง จากนั้นนางสาวสมายพยายามเดินเข้าไปหา นายครัชก็ชักอาวุธปืนยิงใส่พื้น 1 นัด ก่อนจะหันกระบอกปืนจ่อยิงขานางสาวสมาย จนล้มไปกองกับพื้นอีก 1 นัด จนนางสาวสมายส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร จากนั้นนายครัช ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งถือปืนแกว่งไปมา และลั่นไกทั้งจ่อยิงและยิงขู่นางสาวสมาย อีกจำนวน 3 นัด บางช่วงจะเห็นว่า นายครัช ใช้ปืนจ่อขมับตัวเองหลายครั้ง ก่อนอุ้มนางสาวสมายขึ้นรถกระบะแล้วขับออกไป
ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา มีการสกัดจับรถคันดังกล่าวแต่ก็ไร้วี่แวว ล่าสุดช่วง 22.10 น. นายครัช ยอมปล่อยตัวนางสาวธิดาพร ไปโรงพยาบาลแล้ว โดยเข้ารักษาตัวที่ รพ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ห่างจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระยะทางรวม 262 กม. โดยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ ขาซ้ายและยังอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด เนื่องจากเจ้าตัวมีการหวาดกลัวตลอดเวลา ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา กำลังรวบรวามพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับนายครัช ผัวโหดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป