"ดีเอสไอ" คุมตัว "ชวนหลิง จาง" กรรมการ บ.ไชน่าเรลเวย์ ฝากขังศาลอาญา พบเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบคำถาม 3 นอมินีชาวไทย - หัวใหญ่ตัวจริงของบริษัท ด้านโฆษกดีเอสไอ เผยรู้ที่กบดาน "โสภณ-ประจวบ-มานัส" แล้วยังพบอยู่ในไทย

วันที่ 21 เม.ย. 2568 เมื่อเวลา 9.45 น. ที่ห้องสำนักงานรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นำโดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ควบคุมตัวนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนอมินี บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายชวนหลิง จาง ที่สวมใส่เสื้อโปโลสีเขียวลายพราง สวมกางเกงยีน สวมหมวก สวมหน้ากากอนามัย สีขาว สื่อมวลชนได้สอบถามคำถามในประเด็นต่างๆ แต่นายชวนหลิง จาง ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ต่อสื่อมวลชน ซึ่งมีผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายชวนหลิง จาง ได้ส่ายหน้าให้กับผู้สื่อข่าวก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะไปยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลแทน


ต่อมา พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการออกหมายจับ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายซึ่งมีการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ส่วนการสอบปากคำนายชวนหลิง จาง ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยให้การว่า ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจ ของประเทศจีนจริง เพียงแต่ว่ามาลงทุนในสัดส่วน 49% ของบริษัทไชน่าเรเวย์ 10 แต่ในส่วนของคนไทยที่ถือหุ้นในประเทศไทยนั้นตนเองไม่ทราบ แต่นายชวนหลิง จางรับว่ารู้จัก ผู้ถือหุ้นไทยทั้ง 3 คน คือ “นายประจวบ ศิริเขต “” นายโสภณ มีชัย “” นายมานัส ศรีอนันท์ “จริง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลการถือหุ้นบริษัทไชน่าฯ เขาให้ข้อมูลเฉพาะในส่วนฝั่งประเทศจีนเท่านั้น พบว่าการสอบปากคำในครั้งนี้มีจุดเชื่อมต่อที่จะเร่งขยายผลในการสืบสวนสอบสวนพอสมควร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายจาง ให้การเป็นประโยชน์หรือไม่ ระบุว่ามีรายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนเงิน 2 พันล้านบาท ที่มีการกู้ยืมจากกรรมการบริษัท ระบุว่าตัวเงินเป็นของคนไทย ที่มีการกู้ยืมเงิน ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่จะต้องขยายผลต่อว่าแหล่งที่มาของเงินจริงๆมาจากไหน เพราะตอนนี้มีการตรวจสอบสถานะของคนไทยทั้ง 3 คน เนื่องจากทั้ง 3 คนไม่มีสถานะที่เพียงพอในการไปดำเนินการทางธุรกิจ และไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยตรง

เมื่อถามว่าทั้ง 3 คนนี้มีเงิน 2 พันล้านบาทมานอนไว้ในบัญชีเพียงเท่านั้นหรือไม่ ระบุว่า ในส่วนของรายละเอียดมีการกู้ยืมเงินมาใช้ในส่วนของธุรกิจ แต่รายละเอียดอื่นๆ ต้องรอการสอบสวนต่อไป ส่วนจะมีเส้นเงินไหนไปถึงจีนหรือไม่ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นเดียวกัน

ส่วน 3 คนไทยที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวขณะนี้มีความคืบหน้าไปเยอะ และมีข้อมูลบางส่วนที่เป็นประโยชน์ รับว่าทั้ง 3 คนยังอยู่ในประเทศไทย พร้อมบอกว่าทางดีเอสไอมีการสื่อสารออกไปหลายครั้ง เราต้องการทราบว่าเขามาทำหน้าที่อะไรในบริษัทนี้ เพื่อทำให้สำนวนในคดีนั้นสมบูรณ์ แต่เจ้าตัวไม่ออกมาแสดงตัว จึงนำไปสู่การ ขออำนาจศาลออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอสมควรในการที่จะออกหมายจับทั้ง 3 คน เพื่อให้เกิดกระบวนการทางกฎหมาย ในการนำตัวทั้ง 3 คนมาให้ข้อมูลในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งแนวทางหลังจากที่มีการออกหมายจับก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น

ส่วนคนที่ให้ที่พัก หรือให้ที่หลบซ่อนหากช่วยเหลือก่อนออกหมายจับก็ยังคงไม่มีความผิด แต่หลังจากที่มีการออกหมายจับก็คงจะมีความผิดในการช่วยเหลือผู้ต้องหา / เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้ง 3 คนจะถูกกักขัง ระบุว่า เรื่องนี้มองได้ทุกมุม แต่ว่าสุดท้ายพยายามที่จะให้เขาเข้ามาด้วยตนเอง หรือมีคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจพามาก็อยากให้เขามา

หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ ระบุว่าที่คุยกับทีมสอบสวน กำลังเร่งรวบรวมขยายประเด็น เพราะยังมีข้อเท็จจริงที่ต้องเป็นที่ต้องหาเพิ่ม และในการสอบสวนเป็นระบบฟังความสองฝ่าย เพราะฉะนั้น พยานหลักฐานที่เราได้มาในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาก็เป็นหลักฐานที่สามารถออกหมายจับได้ เราก็จะต้องรับฟังพยานหลักฐานของผู้ที่ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกัน ว่าเขามีเหตุผลหรือคำอธิบายว่าอย่างไรที่นำมาสู่การสอบสวน และหักล้างข้อหาที่ออกหมายจับได้ไหม ซึ่งหักล้างไม่ได้ก็จะต้องมีการฟ้องดำเนินคดีกันต่อไป

ในส่วนการขอประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องด้วยคดีนี้เป็นคดีที่มีความเสียหายเป็นวงกว้าง และนายจางเป็นบุคคลต่างชาติ และเป็นเรื่องที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ จึงต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาในการขอประกันตัวชั่วคราว

และหลังจากนี้จะมีการเรียกบุคคลใดมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ระบุว่ามีตารางการสอบกลุ่มพยานทุกวัน แล้ววันนี้จะมีอธิบดีกรมโยธาธิการ และผังเมืองเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องวิศวกรรม และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

และจะมีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอายัดไว้ทั้ง24 ตู้ ตอนไหน ระบุว่า ตอนนี้เร่งให้แผนผังองค์กร เพราะเวลาที่เราจะตรวจสอบเอกสารเราจะต้องมีคนที่ทำหน้าที่หลักในการตรวจเอกสาร และในวันที่ 30 เมษายน หน่วยงานแรก คือ กิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ก่อสร้าง จะส่งแผนผังองค์กรเข้ามาให้กับดีเอสไอ และจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมโยธาธิการและผังเมืองเข้ามาช่วยเนื่องจากเขามีความรู้ในเรื่องของเอกสารพวกนี้ และหลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการต่อไป

นายบินลิง วู จะอยู่เบื้องหลังหรือไม่อยู่ในสำนวนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบขอทำการสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วน “นายตง เซี่ย” ซึ่งมีรายงานว่าเป็นกรรมการคนแรกของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบ