ป้ายากไร้ จ.บุรีรัมย์ มูลนิธิตรวจสอบพบคลั่งลัทธิ ลูกส่งเงินกลับบริจาคให้สถานธรรม ภาวนากินเจตลอดชีวิต บังคับสามีกินเจด้วย สุดท้ายสามีเสียชีวิต หมอระบุขาดสารอาหารขั้นรุนแรง

วันที่ 23 เม.ย. 2568 หลังจากมีคนนำภาพบ้านที่อยู่ของหญิงคนหนึ่งโพสต์ในลักษณะน่าเวทนา เพราะอยู่กับกระท่อมน้อยไม่มีห้องนอน ไม่มีแม้หนอนจะหนุน จนชาวเน็ตต่างออกมาตำหนิผู้นำท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด จากการตรวจสอบพบว่า กระท่อมดังกล่าวเป็นบ้านของนางบุญเรียน อายุ 59 ปี หมู่ 1 บ้านไทยสามัคคี ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ลักษณะบ้านไม่มีผนังบ้าน ข้างบ้านมีกระท่อมหลังเล็ก ไม่มีห้องน้ำ สภาพทั่วไปคือเป็นครอบครัวที่ยากจน อบต.ได้นำน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งไปให้ แต่ไม่พบเจ้าของบ้าน

สอบถามนางจอมศรี จันทร์เพชร ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ปกตินางบุญเรียน ทำงานได้ตามปกติ รับจ้างตัดอ้อย และรับทำงานรับจ้างได้ทุกอย่างขอให้มีคนจ้าง มีลูกไปทำงานต่างจังหวัด 2 คน ลูกชายจะส่งเงินมาให้เดือนละ 2,000 บาท ลูกสาวจะส่งเงินมาให้เดือนละ 1,000 บาท

เท่าที่ได้รับการร้องเรียน นายบุญเรียนอยากจะเปลี่ยนหลังคากระท่อมแต่กลับคิดว่าไม่ใช่ความจำเป็นในชีวิตประจำวัน สิ่งที่จำเป็นที่สุดในชีวิตคือมีค่ารถเดินทางไปสถานธรรม เรื่องกินไม่ใช่ปัญหากินอะไรก็ได้

นางเหรียญ อายุ 64 ปี พี่สาวนางบุญเรียน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ปี น้องสาวตั้งปฏิญาณตนว่าจะกินเจตลอดชีวิต และจะไปสถานธรรมอย่างเดียว พอได้เงินจากลูกที่ส่งมาให้ก็จะเอาไปบริจาคให้กับสถานธรรมแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน อ.ลำปลายมาศ บอกว่าจะเอาไปสร้างสถานธรรม แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นสถานที่แบบไหน

ส่วนสามีของน้องสาวก็กินเจเช่นเดียวกัน เพราะภรรยาบังคับให้กินเจ แต่น้องเขยไม่อยากกินเจแต่จำเป็น เวลาน้องสาวไม่อยู่ตนมักจะย่างเนื้อมาให้กินเพราะสงสาร ที่ป่วยเป็นวัณโรค ตอนเข้าโรงพยาบาลตนก็แอบเอาเนื้อสัตว์ไปให้กิน เคยบอกให้เลิกกินเจ แต่น้องเขยเกรงใจภรรยา แต่ตอนนี้น้องเขยได้เสียชีวิตด้วยโรควัณโรคไปแล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

ด้านแพทย์หญิงวิมลพรรณ อาจสม ผอ.โรงพยาบาลหนองหงส์ ได้เดินทางมาเยี่ยมเพราะเป็นห่วง โดยแพทย์หญิงวิมลพรรณ ระบุว่า สามีของนางบุญเรียน ป่วยเป็นโรควัณโรค แต่กินเจอย่างเดียว ทางโรงพยาบาลพยายามเอาอาหารที่มีโปรตีน เช่น ไข่ นม เพื่อให้อาการโรควัณโรคดีขึ้นแต่ถูกปฏิเสธ ทำให้เกิดอาการผิวแห้งตามร่างกาย เพราะขาดสารอาหารขั้นรุนแรง สุดท้ายเสียชีวิต

ต่อมานายโสภณ ซารัมย์ สส.พรรคภูมิใจไทย จ.บุรีรัมย์ และประธานที่ปรึกษามูลนิธิอาณัติพล ซารัมย์ (ลูกเติ้ง)ได้เดินทางมาตรวจสอบหลังมีคนร้องให้มาช่วยเหลือผู้ยากไร้ดังกล่าว

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า แบบนี้เราต้องช่วยเหลือทางปัญญาก่อน การช่วยเหลือด้วยการเอาทรัพย์สินอะไรมาให้ถ้าคนขาดปัญญาก็จะอยู่แบบนี้ การปฏิบัติธรรมของนางบุญเรียน เป็นอีกแนวหนึ่งซึ่งไม่ใช่แบบพระพุทธองค์ เคสนี้เร่งด่วนต้องเอาไปทางโลกก่อน คือการเอาไปบำบัดทางจิตก่อนหรือไม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหมอ ส่วนทางมูลนิธิฯ ยังไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เพราะขัดระเบียบ

สำหรับสถานธรรมดังกล่าวได้ตั้งขึ้นที่ อ.หนองหงส์ 1 สาขา อ.ลำปลายมาศ 1 สาขา มีการชักชวนให้คนไปเข้าสถานธรรม เพื่อละกิเลสภาวนา อยากได้บ้านได้รถให้อธิษฐานเอา