ญาติทำใจไม่ได้ สาวสองถูกฆ่าโหด อยากให้คนร้ายโดนประหารชีวิต!

แม่และญาติพี่น้องของน้องวรนันท์ หรือน้องโน้ต ยังทำใจไม่ได้ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันและโหดร้ายเกินมนุษย์ ทุกคนยืนยันน้องเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนดี วาดฝันจะไปทำงานที่ไต้หวันอีกครั้ง เพื่อหาเงินมาซื้อวัวให้พ่อ-แม่ได้เลี้ยง หลังจากซื้อที่ปลูกหญ้าไว้แล้ว ทุกคนต่างต้องการให้ลงโทษผู้ต้องหาชาวจีนที่ถูกจับกุมได้รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน และต่างขอให้ดวงวิญญาณของน้องไปเกิดในภพภูมิที่ดี ให้ได้เป็นผู้หญิงจริง ๆ ตามที่น้องอยากเป็น และเป็นทางฟ้าบนสวรรค์ 

 

บรรยากาศที่บ้านกุดแกลบ ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นบ้านของนางชอน และนายอ้วน พ่อและแม่ของน้องวรนันท์ หรือน้องโน้ต ที่ถูกหนุ่มจีนฆ่าโหดที่พัทยา เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาสอบถามข่าวคราวและให้กำลังใจนางชอน ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ยังไม่ได้นอนและเป็นลมแล้วหลายครั้งตั้งแต่รู้ข่าวน้องโน้ตถูกฆ่าโหด ส่วนพ่อ พี่สาว พี่เขย และหลานได้เดินไปถึงพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้วเพื่อดำเนินเรื่องรับร่างของน้องโน๊ต ซึ่งญาติและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันจัดเตรียมบ้าน ทั้งทำความสะอาด กางเต็นท์ จัดเตรียมครัวเพื่อทำอาหารเลี้ยงญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะนำร่างของน้องโน้ตมาถึงบ้านวันไหน เมื่อร่างมาถึงก็จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าประดิษฐ์ธรรม ซึ่งเป็นวัดภายในหมู่บ้าน เนื่องจากชาวบ้านมาความเชื่อว่า หากเป็นการตายโหง จะไม่นำร่างเข้าบ้าน 

 

โดยในช่วงสายนายณัฎฐษ์กร กุลเดชศิริวัฒน์ นายก อบต.นาหนัง พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่ อบต.นาหนัง ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ นางชอน แม่ของน้องวรนันท์ หรือน้องโน้ต พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมรับปากจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

 

นางชอน อายุ 60 ปี แม่ของน้องวรนันท์ หรือน้องโน้ต เล่าด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่าที่ผ่านมาน้องเป็นคนที่นิสัยดีมาโดยตลอด ทำงานส่งเงินให้พ่อ-แม่ทุกเดือนไม่เคยขาด ตนอยู่กับลูกคนนี้ ส่วนลูกสาว 2 คน ก็ได้แต่งงานออกไปอยู่กับครอบครัว น้องโน้ตจึงเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวที่ดูแลครอบครัว พ่อ-แม่ รวมทั้งบ้านหลังที่ตนอยู่นี้ น้องโน้ตก็เป็นคนหาเงินมาสร้างให้  รวมไปถึงซื้อที่ดินให้พ่อ-แม่ด้วย ที่ผ่านมาก็ติดต่อกันตลอด ยกเว้นคืนที่เกิดเหตุไม่ได้ติดต่อมา ตนก็ไม่ได้โทรไป คิดว่าไม่ได้ติดต่อกันแค่คืนสองคืนไม่เป็นอะไร ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับน้อง น้องอาจจะติดธุระหรือกำลังวุ่นกับการทำงาน ที่ผ่านมาก็โทรติดต่อกับญาติ ๆ ถามข่าวคราวอยู่เป็นประจำ น้องเป็นคนที่ขยัน เริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.6 

 

แม่ของน้องวรนันท์ หรือน้องโน้ต เล่าต่อไปอีกว่า จนถึงตอนนี้แล้วตนก็ยังทำใจก็เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ อยากให้ลงโทษคนที่ทำกับน้องโดยเอาชีวิตแลกกับชีวิตไปเลย คือให้ประหารชีวิตเลย มันโหดร้ายทารุณเกินไป ถ้าเป็นการเสียชีวิตแบบธรรมชาติยังพออภัย แต่อันนี้มันเกินไป พ่อ-แม่เสียใจเป็นอย่างมาก ตนร้องไห้ แอบร้องไห้ ตั้งแต่ที่รู้ข่าว เป็นลมแล้วหลายรอบ ตั้งแต่น้องเสียชีวิตไปยังไม่ได้มาเข้าฝันตนเลย อยากให้มาเข้าฝันเป็นอย่างมาก เพราะตนคิดถึงน้องมาก แต่ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะตนยังไม่ได้นอนหลับมีแต่ร้องไห้ เดินไปที่จุดไหนของบ้านก็คิดเห็นรอยมือ เสื้อผ้าฝีมือของลูกที่ทำไว้ เลยทำให้ตนไม่หลับไม่นอน สุดท้ายตนอยากจะฝากถึงดวงวิญญาณของน้อง ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่อยากให้มีห่วง ไปเป็นสาวเต็มร้อย ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์

 

นางบุญช่วยกับบุญ ป้าของน้องโน้ต บอกว่าน้องเป็นคนนิสัยดี นิสัยแบบผู้หญิง ชอบความสวยความงาม แต่นิสัยแบบผู้ชายคือการสู้ชีวิต วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รับจ้างลุงป้าที่รับเหมาก่อสร้าง ไปทำงานหิ้วปูนหาเงินตั้งแต่อยู่ ป.6 ตัวยังเล็ก ๆ ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท น้องบอกอยากได้เงินไปโรงเรียน จากนั้นก็ไปช่วยงานตลอด พออยู่ชั้น ม.3 ก็เริ่มหาเงินอย่างจริงจัง เนื่องจากรักสวยรักงาม อยากเป็นผู้หญิงเหมือนพี่สาวทั้งสองคน น้องเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังพี่สาวทั้ง 2 คนแต่งงานแยกครอบครัวออกไป น้องอยู่กับพ่อ-แม่ จึงเป็นเสาหลักหาเงินส่งให้พ่อ-แม่ หลังจบชั้น ปวช. ก็ไปทำงานที่พัทยา ทำงานตามร้านอาหาร จนทำให้มีเพื่อนชักชวนไปทำงานตามที่ต่าง ๆ จนมีเงินไปเสริมความงามให้กับตนเอง และได้ไปทำงานที่ไต้หวัน 2 ปี มีเงินกลับมาสร้างบ้านให้กับพ่อ-แม่ เป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท กลับจากไต้หวันก็มาทำงานที่พัทยา ล่าสุดกำลังเดินเรื่องเพื่อกลับไปทำงานที่ไต้หวัน โดยช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้กลับมาบ้านคุยกับพ่อ-แม่ บอกว่าอยากไปทำงานไต้หวันอีกครั้ง แต่ได้มาเกิดเรื่องขึ้นก่อน 

 

ในส่วนร่างของน้องนั้น ป้าบอกว่า เมื่อมาถึงบ้านเกิด ก็จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าประดิษฐ์ธรรม ซึ่งเป็นวัดภายในหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านจะใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจ เป็นวัดป่า จะไม่นำเข้าบ้านเนื่องจากชาวบ้านมาความเชื่อว่า หากเป็นการตายโหง จะไม่นำร่างเข้าบ้าน จะตั้งบำเพ็ญกุศลกี่วันญาติ ๆ ยังไม่ได้คุยกัน แต่คงไม่กี่วัน ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของน้อง ตอนนี้ไม่มีเสาหลักของครอบครัวแล้ว พ่อ-แม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ติดต่อกับน้องได้ตอนสุดท้ายก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน โทรมาถามตนว่าทำอะไรอยู่ ตอนนั้นตนกำลังขนปุ๋ยคอกไปใส่นา ช่วงพักกำลังจะกินข้าวเที่ยง ก่อนน้องจะบอกว่างั้นก็กินข้าวกันซะ แล้วก็วางสายไป พอมีคนโทรมาบอกตกใจเข่าอ่อน ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ตนคิดว่าจะใช่น้องหรือเปล่า ญาติพี่น้องก็โทรมาถามข่าว ตนก็ได้โทรหาหลานที่บ้านกุดแกลบ หลานยืนยันว่าใช่ กำลังจะลงไปรับร่าง 

 

ส่วนที่เคยเล่าเรื่องคบกับชาวจีนให้ฟังหรือไม่นั้น ป้าบอกว่า ไม่เคยเล่าให้ตนฟัง มีแต่เล่าให้พ่อฟัง พ่อยังได้เตือนอยู่ ไม่รู้ว่าคนจีนที่ก่อเหตุไหม ตนก็ไม่รู้ ที่พ่อเตือนกลัวน้องจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเขา กลัวจะถูกหลอก เพราะถือว่าน้องยังเป็นเด็กอยู่ การที่อยากทำงานเพื่อให้ได้เงินมาก ๆ อาจจะถูกหลอกได้ง่าย สุดท้ายตนอยากให้น้อง ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ กลับมาเป็นสาวสวยเต็มร้อย เหมือนที่ชาตินี้น้องอยากเป็น 

 

ทางด้านนายบัวสี ญาติฝ่ายลุง ที่เป็นช่างทำบ้านให้ บอกว่า น้องเป็นคนดี เรียบร้อย ประหยัดเก็บออม ขยันขันแข็ง ไม่กินเหล้าเมายา ที่กินแค่จิบ ๆ นิดหน่อยเวลาทำงานและพบกับแขกเท่านั้น เนื่องจากน้องทำงานที่ร้านอาหารก็ต้องมีบ้าง เวลากลับมาที่บ้านก็ไม่เคยมีการตั้งวงกินเหล้า ถ้าป้าลุงอยากกินก็ให้เงินไปซื้อเป็นขวดมากิน เมื่อช่วงสงกรานต์ที่น้องกลับมาบ้าน ก็ยังได้เทหินหน้าบ้าน สงกรานต์ก็ไม่ได้ออกไปเล่นกับเพื่อน อยู่แต่บ้าน บ้านหลังนี้ตนก็เป็นช่างก่อสร้างให้ น้องจ้างตนให้มาสร้างบ้านให้ ตนเป็นญาติทางลุง ก็ตั้งใจมาช่วยสร้างให้ ค่าแรงก็แล้วแต่น้องจะให้ ใช้เวลาก่อสร้างบ้านหลังนี้ประมาณ 5 – 6 เดือน เริ่มสร้างหลังจากที่น้องกลับมาจากทำงานที่ไต้หวัน ได้เงินกลับมาสร้างบ้านหลังนี้ มีแต่ญาติพี่น้องมาช่วยกันสร้าง 4 – 5 คน วัสดุน้องก็เป็นคนสั่งมาให้

 

นายบัวสี บอกว่าพอทราบข่าวเหมือนหัวใจแตกหัก ตอนแรกไม่เชื่อ เสียดาย น้องยังถือเป็นเด็กอยู่ ยังจะเจริญเติบโตไปอีกไกล ซึ่งน้องกลับมาครั้งที่แล้วก็กลับมาเสริมสวยเพื่อที่จะไปทำงานที่ไต้หวัน ตั้งใจจะมาซื้อวัวให้พ่อ-แม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อที่ดินและปลูกหญ้าไว้แล้ว แต่มาเสียชีวิตก่อน ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายอยากจะฝากถึงดวงวิญญาณของน้อง ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี เกิดชาติหน้าขอให้ได้มาเป็นลูกเป็นหลานกันอีก 

 

ทางด้านนาย ธนศักดิ์ อายุ 22 ปี เป็นหลาน พูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าปนเสียงสะอื้น บอกว่าน้องโน้ตเป็นคนดี นิสัยดีมาก เป็นคนขี้อายเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ไม่กล้าแสดงออกมาก แต่ยืนยันเป็นคนดี เป็นคนปากแข็ง มีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเป็นคนขยันมาก กว่าจะสร้างบ้านหลังนี้ให้พ่อ-แม่ได้ก็ลำบากพอสมควร เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาก็พึ่งได้คุยกัน นัดกันว่าตนจะลงไปเที่ยวพัทยา ในวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ช่วงที่ผ่านมายังหาวันหยุดที่ตนจะลงไปหาตรงกันไม่ได้ แต่ก็ได้มาเกิดเรื่องก่อน สุดท้ายอยากจะฝากถึงดวงวิญญาณของน้อง กลับมาอยู่ที่บ้านก่อน ไปสู่สุขติ แล้วไปเกิดใหม่