อีกแล้ว! แท็กซี่ภูเก็ตขวางและเฉี่ยวชนรถพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวัย 77 ปี เสียชีวิตบนรถ แม้ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะช่วยกันพยายามปั๊มหัวใจผู้ป่วย แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
รถพยาบาลเปิดสัญญาณไซเรนวิ่งนำผู้ป่วยไปส่งยังโรงพยาบาลมาตามถนนกมลา-ป่าตอง ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างทาง รถแท็กซี่ป้ายเขียว ไม่ยอมหลบ ทั้งที่เสียงสัญญาณไซเรนดังลั่นถนน แถมยังหักขวาออกมา จนเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถพยาบาลคันดังกล่าว
ต่อมาทราบว่า ผู้ป่วยภายในรถพยาบาลคือ นายประดิษฐ์ อายุ 77 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ เกิดอาการหน้ามืด ระหว่างเข้าไปดูคนงานเก็บสะตอในสวน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ญาติโทรแจ้ง 1669 ส่งรถพยาบาลไปรับเมื่อเวลา 08.15 น. จากนั้น รีบนำผู้ป่วยขึ้นรถ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองภูเก็ต เพื่อส่งให้ทันแพทย์รักษา แต่ระหว่างทาง ก็เจอรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แม้ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะช่วยกันพยายามปั๊มหัวใจผู้ป่วย แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตลงในเวลา 08.45 น.
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถพยาบาลเปิดไซเรนเต็มที่ แต่แท็กซี่ไม่ยอมหลบ เชื่อว่าถ้ายอมหลบทางให้ ก็อาจไปถึง รพ.ทันเวลา และช่วยชีวิตได้
เบื้องต้น ตำรวจ เรียกคนขับแท็กซี่มาสอบสวน แล้วแจ้งข้อหา ขับขี่กีดขวางรถฉุกเฉิน และละเมิดสิทธิผู้ป่วย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ลูกสาวตัดพ้อถ้าแท็กซี่หลีกทาง พ่อคงยังอยู่กับเรา
ต่อมาทีมข่าวไปพูดคุยกับพบ น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังพ่อหน้ามืดแล้ว รถพยาบาลมารับ เพื่อนำส่งไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองภูเก็ต แต่รถกลับถูกรถแท็กซี่ขวางและเฉี่ยวชน
หญิงสาวยืนยันว่า พ่อยังมีชีพจรตอนขึ้นรถ ของโรงพยาบาลป่าตอง แต่เมื่อรถโรงพยาบาลป่าตองมาถึงและเปิดไซเรน บนถนนกลับมีแท็กซี่ป้ายเขียวไม่หลบ ประกอบกับทางแคบ รถพยาบาลต้องลดความเร็วลง จากนั้น ก็ถูกรถแท็กซี่หักเข้ามาชน ตอนนั้น พ่อยังมีชีพจร แต่หลังปั๊มหัวใจไม่ทัน อาการทรุดลงและเสียชีวิตภายในรถฉุกเฉินคันดังกล่าว หญิงสาวบอกว่า จนถึงขณะนี้ ไม่มีใครจากฝั่งคนขับแท็กซี่ ติดต่อขอโทษหรือชี้แจงใดๆ ทำให้ญาติรู้สึกเสียใจ และคาใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ครอบครัวไม่ได้ต้องการเอาผิดรุนแรง เพียงต้องการให้เหตุการณ์นี้ เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ใช้ถนนทุกคน ครอบครัวของคนอื่นจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้