จังหวัดกระบี่ เตือนประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภอ เตรียมรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์จำนวนหลายจุด

บริเวณถนนสายหนองจิก บ้านในสระ ซึ่งท่วมเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร และมีระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยที่รถยนต์เล็กบางคันต้องตัดสินใจขับรถกลับเนื่องจากไม่สามารถขับผ่านไปได้ และมีป้ายทะเบียนรถยนต์หลายคันตกอยู่ซึ่งคาดว่าหลุดตอนฝ่ากระแสน้ำ นอกจากนี้ในบริเวณที่มีน้ำท่วม ได้มีเด็กมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หมวดการทางทับปุด ได้ นำป้ายมาติดตั้ง เตือนผู้ขับขี่รถ ให้ระวังอันตรายจากดินถล่ม ที่บริเวณถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ดินสไลด์หลายจุด

นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ได้เตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ เทือกเขาพนมเบญจา อำเภอเขาพนม อำเภอเมืองกระบี่ ให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักสะสม อาจเกิดดินถล่ม ต้นไม้ล้ม น้ำป่าไหลหลากจนถึงวันที่ 24 ตุลาคมนี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ปักธงแดงตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลบริเวณหาดนพรัตน์ธารา หาดอ่าวนาง ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนประชาชนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำในจุดดังกล่าว เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง2-3เมตร ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้

ขณะชาวประมงพื้นบ้านตำบลคลองท่อมใต้อำเภอคลองท่อมเคลื่อนย้ายเรือเครื่องมือทำประมงนำขึ้นไว้เป็นฝั่งป้องกันความเสียหายเนื่องจากมีคลื่นลมแรงต่อเนื่อง

นายบุญเชาว์ตั้งสิริไพศาลผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่เปิดเผยว่า ได้ประกาศเตือนให้กิจการเรือทุกประเภท และประชาชนผู้ใช้บริการเรือโดยสารใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โดยเคร่งครัดโดยเฉพาะเรือหางยาวโดยสารเรือขนาดเล็กงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

ส่วนที่จังหวัดนครพนม พบว่าสภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว หลังจากฝนเริ่มขาดช่วง จากการตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนมในตอนเช้า มีอุณหภูมิต่ำสุดที่ประมาณ 20 - 21 องศาเซลเซียส ส่งผลให้หลายพื้นที่ชาวบ้านเริ่มได้สัมผัสกับอากาศเย็นในช่วงเช้า โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง

นอกจากนี้ยังพบว่า เริ่มมีหมอกหนาในช่วงเช้าตามถนนสายต่างๆ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศเตือนให้ประชาชน ระมัดระวังในการสัญจรไปมา เนื่องจากกระทบต่อวิสัยทัศน์การมองเห็น และหมั่นดูแลสุขภาพในช่วงนี้ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่าย เพราะอากาศแปรแรวน

ขณะที่ชลประทานจังหวัด ได้เตือนเกษตรกรให้เตรียมหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมเร่งเก็บกักน้ำเตรียมรับมือฝนทิ้งช่วง บวกกับระดับน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ ประมาณ 4.5 เมตร ซึ่งเสี่ยงต่อปัญหาขาดแคลนน้ำในภาคการเกษตร พร้อมประกาศเตือนให้เกษตรกรงดปลูกพืชทำการเกษตรนอกระบบ