ศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร Volunteers For DAD ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศขอรับบริจาคด่วนยาดม ยาหม่อง น้ำดื่ม และ แก้วน้ำ หลังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ ชนเผ่าปะโอทางภาคเหนือ 300 คน เดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
กลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่า'ปะโอ' 300 คนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
วานนี้ (20พ.ย.) กลุ่มชาติพันธุ์ ชนเผ่า 'ปะโอ' 300 คน จาก จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาเข้าคิว เพื่อรอเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อแสดงความจงรักภักดี
โดยชาวเขาชนเผ่าปะโอ ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงกลางดึก เข้ามาทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนมุ่งหน้าสู่ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ด้วยรถทัวร์ 3 คัน และ รถตู้ 4 คัน
ชาวเขาเผ่าปะโอ บอกว่า รู้สึกเสียใจมากต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกราบขอบคุณพระองค์ท่านที่ให้ชาวเขาเผ่าปะโอ ได้เข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพในเมืองไทย จนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
ประชาชนไม่ย่อท้อรอ15ชั่วโมงเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
ขณะที่ประชาชนจากทั่วประเทศยังเดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 ซึ่งวานนี้ (20พ.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ปรับรูปแบบการการต่อแถวเป็นวันที่ 2 แล้ว สำหรับแถวรูปแบบใหม่ จะให้ประชาชนเข้าแถวในเต็นท์ด้านทิศเหนือของท้องสนามหลวง แล้วเดินตัดแถวถนนหน้าพระธาตุได้ทันที
โดยไม่ต้องเดินอ้อมไปยังทิศใต้ของท้องสนามหลวง เนื่องจากพื้นที่สนามหลวงฝั่งทิศใต้จะถูกปรับพื้นที่เตรียมใช้ก่อสร้างพระเมรุมาศ
ประชาชนส่วนใหญ่ บอกว่า ยินดีเข้าแถวตามที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ เพราะไม่ว่า เจ้าหน้าที่จะจัดแถวรูปแบบใด หากได้เข้าถวายบังคมพระบรมศพก็ยินดีให้ความร่วมมือ
บางคนบอกว่า เดินทางมาต่อแถวตั้งแต่เวลาตี 3 แต่ได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเวลา 18.00 น. หรือ ต้องใช้เวลารอนานกว่า 15 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่า แม้จะร้อน และเหนื่อย ทุกคนก็อดทนรอได้ และไม่มีความรู้สึกย่อท้อแต่อย่างใด
นปช.แจกอาหาร-น้ำดื่มให้ประชาชนท้องสนามหลวง
ส่วนที่บริเวณเต็นท์บริจาคอาหาร บริเวณสนามหลวง ฝั่งทิศเหนือ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษากลุ่มนปช. พร้อมด้วยนายแพทย์เหวง โตจิราการ และแนวร่วม นปช. ได้นำอาหาร น้ำผลไม้ และน้ำดื่ม จำนวน 1,500 ชุดมาแจกให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
นางธิดา กล่าวว่า กลุ่มนปช.ที่ร่วมทำอาหารแจกจ่ายให้ประชาชน ถือเป็นการแสดงความรู้สึกโศกเศร้า เสียใจต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกัน และแสดงให้เห็นว่า ประชาชนทุกคนไม่ว่า สวมสีเสื้อใด หรือ อยู่ภูมิภาคใดล้วนมีความรักให้แก่กันทั้งสิ้น
กอร.รส.เผยสนามหลวงทิศเหนือไม่พอรองรับประชาชน
ด้าน พลตรีพงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 และ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) เปิดเผยหลังประชุมกอร.รส.ว่า หลังจากเปลี่ยนรูปแบบการต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยใช้พื้นที่ฝั่งทิศเหนือของสนามหลวงเพียงฝั่งเดียว
ทำให้มีประชาชนจำนวนมากต่อแถวล้นออกไปด้านนอกสนามหลวงบริเวณหน้าศาลฎีกา เพราะพื้นที่ไม่สามารถรองรับประชาชนได้เพียงพอ แต่ได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งระบายประชาชนให้เข้าไปยังจุดพักคอย ซึ่งสามารถระบายได้ 2,000 คนต่อชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนเข้าใจถึงไม่ความไม่สะดวกด้วย
ปิดสนามหลวง 10 ม.ค.ก่อสร้างพระเมรุมาศ
พลตรีพงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า กอร.รส.จะเริ่มปิดพื้นที่ท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2560 เพื่อก่อสร้างพระเมรุมาศ โดยจะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2560 โดยเต็นท์ที่ให้บริการอาหารทั้งหมดจะย้ายมาอยู่ทางทิศเหนือตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2559 เป็นต้นไป
สำหรับการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดีในวันที่ 22 พ.ย.เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ทางกอร.รส.จะจัดกิจกรรม ณ ท้องสนามหลวงเช่นเดียวกันกับรัฐบาล
โดยในช่วงเวลา 08.00 น. จะหยุดการเดินคิวเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมร้องเพลงชาติและแสดงความจงรักภักดี พร้อมกับประชาชนทั่วทั้งประเทศ
ขณะที่ในส่วนของกรุงเทพมหานคร กำหนดจัดงาน ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) พร้อมกับ 50 สำนักงานเขต ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) โรงพยาบาล โรงเรียน และอาคารส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร รวม 503 แห่ง
ศูนย์ฯอาสาสมัครรับบริจาคด่วนยาดม-ยาหม่อง-น้ำดื่ม
ด้านศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร Volunteers For DAD ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ได้สรุปจำนวนจิตอาสาที่บำเพ็ญประโยชน์ในพื้นที่บริเวณรอบสนามหลวง
หลังครบรอบการทำงาน 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. - 19 พ.ย. 2559 โดยมีจำนวนผู้มีจิตอาสาทั้งหมด 33,517 คน ซึ่งทางศูนย์ฯ ยังเปิดรับอาสาสมัครฯ เพื่อทำงานจิตอาสาต่อไป ทั้งผ่านระบบสมัครออนไลน์ และ เดินทางสมัครด้วยตนเองที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ส่วนการขอรับบริจาคสิ่งของนั้น ทางศูนย์ฯ ประกาศขอรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน อาทิ ยาดม ยาหม่อง ขนมบรรจุหีบห่อ น้ำดื่มบรรจุขวด ขนาดเล็ก (350 มิลลิลิตร) และขนาดกลาง (600 มิลลิลิตร) แก้วน้ำพลาสติก ชานอ้อย หรือกระดาษ น้ำหวาน ผ้าเย็น และพัด เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมายังพื้นที่สนามหลวงใช้คลายความร้อน เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด
สรุป 22 วัน ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ 6.7แสนคน
ขณะที่สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. โดยมีจำนวนประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพทั้งสิ้น 40,737 คน รวม 22 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 675,785 คน
และมีประชาชนถวายเงิน เพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,947,458.75 บาท รวม 22 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 48,109,596.50 บาท