วัดอู่ทรายคำ จังหวัดเชียงใหม่ เสนอแนวคิดย้ายหรือยกพื้นหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี เพื่อแก้ไขปัญหาการก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ที่ตั้งอยู่ประชิดและสูงค้ำหอไตร หลังลงมือก่อสร้างไปแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและผิดแบบ จนต้องถูกสั่งระงับ

ตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และ เครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้งภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับประเด็นอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะกรณีการก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ที่ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรเก่าอายุกว่าร้อยปีของวัดอู่ทรายคำ ในตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการเปิดบริการที่พักคล้ายโรงแรม

ก่อนนำไปสู่การตรวจสอบ จนพบว่า มีการก่อสร้างก่ออาคาร 4 ชั้น ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรที่สร้างจากไม้เกือบทั้งหลังอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลนครเชียงใหม่ จนต้องดำเนินการแก้ไขแบบอาคาร จนทางวัดอู่ทรายคำต้อง ยุติการดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวลงชั่วคราว เพื่อแก้ไขรูปแบบอาคารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

โดยในการหารือกันครั้งนั้น มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ทางวัดอู่ทรายคำมีข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากรณีที่เกิดขึ้นด้วยการจะทำการเคลื่อนย้ายหอไตรให้ออกห่างมาจากอาคารที่ก่อสร้าง หรือ ยกพื้นของหอไตรให้มีความสูงกว่าอาคารที่ก่อสร้าง ซึ่งจากการสอบถามไปยังเครือข่ายภาคประชาชน ก็ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว

และมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะต้องมีการจัดการพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ วัดอู่ทรายคำ เทศบาลนครเชียงใหม่ เครือข่ายภาคประชาชน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา

รวมทั้งฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหากรณีที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานสำหรับกรณีปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย

'วัดอู่ทรายคำ' เสนอย้าย-ยกพื้นหอไตรไม้เก่า แก้ปัญหาสร้างอาคารประชิด