วิถีคนน่านอาชีพใกล้เลือนหายวัวเทียมเกวียนขนหินทรายรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวและเป็นการขุดลอกแม่น้ำน่านไปในตัว
หลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านขณะเดียวกันแม่น้ำสายหลักบางสายมีแนวโน้มลดระดับลงอย่างต่อเนื่องรวมถึงแม่น้ำน่านทางภาคเหนือด้วยซึ่งทุกปีที่แม่น้ำน่านเริ่มแห้งขอดชาวบ้านในอำเภอเมืองน่านกลุ่มหนึ่งก็จะหารายได้เสริมด้วยการนำวัวเทียมเกวียนไปขุดหิน-ทรายในลำน้ำน่านไปขายสร้างรายได้แต่วิถีชีวิตเก่าแก่แบบนี้กำลังจะเลือนหายไปด้วยสภาพแม่น้ำน่านที่ตื้นเขินในช่วงฤดูแล้งจึงทำให้สามารถนำวัวเทียมเกวียนเดินข้ามแม่น้ำได้ไม่ยากแตกต่างกับฤดูน้ำหลากที่พวกเขาไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ทั้งปีพวกเขาเพิ่งสามารถขุดหินและทรายบริเวณใกล้กับสันดอนกลางน้ำมาได้ไม่กี่เดือนหลังปริมาณน้ำน่านเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง
วัวเทียมเกวียนมีหน้าที่ขนหินและทรายขึ้นไปไว้บนริมฝั่งเพื่อรอให้รถกระบะมาขนไปขายต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านลุ่มน้ำน่านที่นำวัวเกวียนเทียมมาบรรทุกหินและทรายขึ้นมาขายถูกสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนซึ่งช่วงฤดูที่แม่น้ำแห้งขอดในอดีตก็จะมีชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านรวมตัวกันนำเกวียนมาขุดหินและทรายสร้างรายได้แต่นับวันอาชีพนี้กำลังจะเลือนหายไปมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเท่านั้นที่ยังทำกันอยู่ท่ามกลางสภาพแม่น้ำน่านที่มีแนวโน้มตื้นเขินลงอย่างรวดเร็วจึงส่งผลต่อการทำเกษตรกรรมลุ่มน้ำบางประเภท
แต่สำหรับชาวบ้านกลุ่มนี้กลับเลือกจะยึดอาชีพขนและหินทรายเพื่อสร้างรายได้เสริมในช่วงงดการเพาะปลูกจากที่เคยประกอบอาชีพปลูกพืชผักไม่สามารถปลูกได้ต้องเปลี่ยนอาชีพมาดำน้ำหากรวดหินทรายขายให้นายทุนที่นำรถมาบรรทุกซื้อถึงริมฝั่งน้ำเพื่อเลี้ยงชีพช่วงหน้าแล้งนี้แต่ก็พลิกวิกฤติเป็นโอกาสสามารถสร้างรายได้วันละ500–1000บาทในช่วงเช้าของทุกวัน